ปลัดคลังไม่หวั่น นักลงทุนประท้วงหยุดเทรด หันลงทุนนอกชี้เจอภาษีเหมือนกัน

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยกรณีที่นักลงทุนรายย่อยประท้วงนโยบายเก็บภาษีขายหุ้น โดยหยุดการซื้อขาย และเตรียมย้ายไปลงทุนต่างประเทศว่า เรื่องการเก็บภาษีขายหุ้นถือเป็นนโยบายของรัฐบาล หากนักลงทุนประท้วงโดยจะย้ายไปเทรดหุ้นในตลาดต่างประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงการจัดเก็บภาษีขายหุ้นภายในประเทศนั้น  เป็นเรื่องของนักลงทุน หากจะไปเทรดหุ้นในตลาดต่างประเทศ ก็ต้องเสียภาษีเช่นเดียวกัน เพราะต่างประเทศ ก็มีการจัดเก็บภาษีขายหุ้นเช่นกัน และบางประเทศ จัดเก็บภาษีขายหุ้นอัตราสูงกว่าไทยด้วย

“จะหนีไปไหนก็เก็บภาษีเหมือนกัน  เพราะหลายประเทศที่เก็บภาษีขายหุ้น จัดเก็บแพงกว่าประเทศไทย” เขากล่าวและว่า สำหรับขั้นตอนของออกประกาศจัดเก็บภาษีขายหุ้นนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดของสำนักงานกฤษฎีกา

เขายังกล่าวถึงนโยบายที่จะให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ปีละ 5% ว่า รัฐบาลก็มีความพยายามปรับโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศ  ไม่ว่าอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ซึ่งถ้าถามว่าโอกาสเป็นไปได้ไหม ไม่ว่าใครจะเป็นรัฐบาลก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ทั้งนี้ ถ้าระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) มีการลงทุนจริง หรือการเกิดของนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ก็จะทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโต

“ในมุมมองส่วนตัว การเติบโตทางเศรษฐกิจมีหลายปัจจัย ทั้งเรื่องท่องเที่ยว ซึ่งวันนี้ ฐานยังต่ำ แต่ถ้าปี 2566  นักท่องเที่ยวมาเต็ม 40 ล้านคนต่อปี ก็ช่วยให้เติบโต ดังนั้น ไทยจึงยังมีโอกาสโตได้ 5%”

ส่วนคาดการณ์เศรษฐกิจปี 2565 กับ ปี 2566 เป็นมุมมองเดียวกับ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง โดยปี 2565 อยู่ที่ 3.4% ปี 2566 ที่ 3.8%

“ตอนนี้ เรากำลังทำให้แผนระยะกลางในเรื่องของฐานะการคลังมีความมั่นคง ซึ่งมองไปในระยะยาวมากกว่า ทั้งนี้ ฐานะการคลังปัจจุบัน ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ในระยาว ก็อยากให้มีความมั่นคงทางการคลัง ทุกวันนี้ ฐานะการคลังเราดี ทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยก็ดีมาก แต่ถ้ารักษาฐานะการคลังไว้ได้ ตามแผนระยะกลาง 5 ปี ก็จะดีมาก”

ส่วนเรื่องนโยบายหาเสียงทางการเมือง ปรับขึ้นค่าแรง 600 บาทต่อวัน นั้นกำลังให้ สศค.วิเคราะห์ถึงผลกระทบต่อนโยบายดังกล่าว

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์