ธ.ก.ส.เติมทุน6พันล้านหนุนชดเชยดอกเบี้ยเกษตรกรไร่อ้อยปี65-67

ธ.ก.ส.เติมทุน6พันล้านหนุนชดเชยดอกเบี้ยเกษตรกรไร่อ้อยปี65-67

ธ.ก.ส.ชดเชยรายได้ดอกเบี้ยเกษตรกรไร่อ้อยปี65-67หนุนประสิทธิภาพการผลิตอย่างครบวงจรและแก้ไขปัญหา PM 2.5 ตั้งแต่การบริหารจัดการแหล่งน้ำในไร่อ้อย การปรับพื้นที่ไปสู่เกษตรแปลงใหญ่ การจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อลดต้นทุนในการผลิตอ้อยวงเงินรวมกว่า 6 พันล้านบาท

นายธนารัตน์ งามวลัยรัตน์ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส.ได้จัดโครงการชดเชยรายได้ดอกเบี้ยให้กับเกษตรกรไร่อ้อย ปี 2565 - 2567 เพื่อหนุนการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจรและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ตั้งแต่การบริหารจัดการแหล่งน้ำในไร่อ้อย การปรับพื้นที่ไปสู่เกษตรแปลงใหญ่ การจัดหาเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อลดต้นทุนในการผลิตอ้อย วงเงินรวมกว่า 6 พันล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MRR / MLR

โดยรัฐบาลและ ธ.ก.ส ช่วยรับภาระในการชดเชยดอกเบี้ยแทนเกษตรกร เพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ผู้ประสงค์ขอสินเชื่อสามารถติดต่อที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 หรือจนกว่าจะเต็มวงเงินที่กำหนด

สำหรับคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ ต้องเป็นเกษตรกร กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร สถาบันชาวไร่อ้อย กลุ่มบุคคลและวิสาหกิจชุมชน ที่ขึ้นทะเบียนการปลูกอ้อยกับ สอน. และเป็นคู่สัญญากับโรงงานน้ำตาลที่ให้การรับรองเกษตรกร วงเงินปีละ 2 พันล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี วงเงินรวมกว่า 6 พันล้านบาท โดยวงเงินแบ่งตามวัตถุประสงค์ในการกู้ ได้แก่

1) เพื่อพัฒนาแหล่งน้ำและการบริหารจัดการน้ำในไร่อ้อย วงเงินสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท อาทิ การขุดบ่อสระกักเก็บน้ำ การเจาะบ่อบาดาล การจัดทำระบบน้ำ การจัดซื้อเครื่องสูบน้ำและอุปกรณ์ให้น้ำในไร่อ้อยและการรวมกลุ่มสร้างหรือพัฒนาปรับปรุงระบบการส่งน้ำ

2) เพื่อปรับพื้นที่ปลูกอ้อยไปสู่เกษตรแปลงใหญ่ วงเงินสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท (อัตราไร่ละไม่เกิน 2,500 บาท)

3) เพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร (ประเภทรถตัดอ้อย รถคีบอ้อย หรืออุปกรณ์ส่วนควบ) วงเงินสูงสุดไม่เกิน 26.05 ล้านบาท

กรณีเป็นเกษตรกรบุคคล คิดอัตราดอกเบี้ย MRR  (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.50) โดยเกษตรกรจ่ายดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 2 ต่อปี รัฐบาลจะจ่ายชดเชยดอกเบี้ยแทนร้อยละ 3 ต่อปี และ ธ.ก.ส. รับภาระเองร้อยละ 1.5 ต่อปี กรณีเป็นกลุ่มเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร สถาบันชาวไร่อ้อย กลุ่มบุคคล หรือวิสาหกิจชุมชน คิดอัตราดอกเบี้ย MLR (ปัจจุบัน MLR เท่ากับร้อยละ 4.88) โดยกลุ่มเกษตรกรจ่ายดอกเบี้ยเพียงร้อยละ 2 รัฐบาลจะจ่ายชดเชยดอกเบี้ยแทนร้อยละ 2 ต่อปี และ ธ.ก.ส. รับภาระเองในอัตราร้อยละ 0.875 ต่อปี

ทั้งนี้ กรณีกู้เงิน 4) เพื่อซื้อเครื่องจักรกลการเกษตร (ประเภทรถแทรกเตอร์ รถบรรทุก และพ่วงบรรทุก) วงเงินสูงสุดไม่เกิน 11 ล้านบาท จะเรียกเก็บดอกเบี้ยจากผู้กู้ ทั้งเกษตรกรรายบุคคลและกลุ่มเกษตรกร ในอัตราร้อยละ 4 โดยรัฐบาลจะไม่ชดเชยในส่วนนี้ แต่ ธ.ก.ส. จะเป็นผู้รับภาระในส่วนที่เหลือแทน

โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือระหว่าง ธ.ก.ส. สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ในสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมและโรงงานน้ำตาล โดยมุ่งเน้นสนับสนุนแหล่งเงินทุนที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำแก่เกษตรกรชาวไร่อ้อย กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ สถาบัน กลุ่มบุคคล หรือวิสาหกิจชุมชนชาวไร่อ้อย เพื่อบริหารจัดการแหล่งน้ำ เช่น การจัดหาแหล่งน้ำสำรองในการบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้ง การปรับพื้นที่การปลูกอ้อยไปสู่เกษตรแปลงใหญ่

การซื้อเครื่องจักรกลการเกษตรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตอ้อยและลดต้นทุนในระยะยาว ลดปัญหาอ้อยไฟไหม้ที่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในไร่อ้อย สอดคล้องกับเป้าหมายในการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายทั้งระบบในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอ้อยอย่างครบวงจร ลดการพึ่งพาแหล่งเงินทุนนอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยไม่เป็นธรรม พร้อมเสริมสร้างรายได้ให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อยและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่เกิดจากการเผาอ้อย