‘กอบศักดิ์’ แนะจับตา 5 ปัจจัยกระทบเศรษฐกิจ ปีกระต่าย

      ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ให้สัมภาษณ์ ผ่านรายการสด “Suthichai Live” ภายใต้หัวข้อ ปี 2566 กระต่ายตื่นตูม หรือกระต่ายทอง?

       โดย กอบศักดิ์ ระบุว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2566 ภาพรวมถือว่ายังฟื้นตัวต่อเนื่อง และไปได้ดี ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา 

     อย่างไรก็ตามมี 5 ปัจจัยหลัก ที่ต้องติดตาม ที่เป็นทั้งปัจจัยบวก และปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจไทย ปัจจัยแรกคือ เงินเฟ้อเริ่มชะลอตัวทั่วโลก หลายประเทศเริ่มเข้าสู่ขาลงของเงินเฟ้อ แต่ที่ต้องติดตามคือ เงินเฟ้อจะลงเร็วมากน้อยแค่ไหน ดื้อยาหรือไม่ 
      ซึ่งมาสู่ ปัจจัยที่สอง คือ เป็นปีที่ดอกเบี้ย เริ่มเห็นการชะลอการขึ้น หลังธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)เริ่มส่งสัญญาณลดการขึ้นดอกเบี้ยแรง จาก 0.75% มาสู่ 0.50% และมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ยน้อยลงได้ในระยะข้างหน้า ดังนั้นคาดการณ์ว่า ดอกเบี้ยของสหรัฐ น่าจะถึงจุดสูงสุดได้ปี 2566 และจะเริ่มเห็นการลงดอกเบี้ยได้ ในกลางปี 2567 

      ปัจจัยที่สาม ภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่จะเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก โดย IMF คาดว่าจะมีประเทศ 1 ใน 3 ที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย ซึ่งจะส่งผลให้ภาคการผลิต ภาคการส่งออกชะลอลดลง

      ดังนั้นสิ่งที่ยังเป็นคำถามคือ หากเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย Recession จะลึกแค่ไหน ที่เป็นสิ่งที่ต้องติดตาม
    “หากเกิด Recession ตัวแปรที่ต้องจับตา คือ ตลาดอสังหาฯ ทุกประเทศทั่วโลกที่ลดลงอย่างมาก ดังนั้นครั้งนี้ จะเป็นการปรับตัวของตลาดบ้าน ครั้งใหญ่สุดของสหรัฐเป็นครั้งที่สอง หลังจากเกิดสงครามโลก”
    ปัจจัยที่สี่ คือ จะเห็น เศรษฐกิจประเทศเกิดใหม่ หรือ Emerging Market หลายประเทศถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย  และปัจจัยสุดท้าย ปีนี้จะเป็นแสงสว่างของการลงทุน จะเห็นราคาสินทรัพย์บางส่วนเริ่มฟื้นตัว ปรับตัวขึ้น แม้จะยังไม่ผ่านวิกฤติ โดยเฉพาะตลาดหุ้นของประเทศพัฒนาแล้ว ที่จะเห็นนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อหุ้นมากขึ้น 
    ดังนั้น ในปี 2566  ปีกระต่ายทอง  โดยรวม สำหรับเศรษฐกิจไทยถือว่ายังพอไปได้ ภายใต้ข่าวดี และข่าวร้าย แต่ช่วงไตรมาสแรกๆ ของปี อาจเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเกิดความผันผวน จากปัจจัยต่างๆ รวมถึงการเปิดประเทศ ที่จะเป็นปัจจัยบวกต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย ให้เติบโตได้ต่อเนื่อง 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์