คลังไฟเขียวยืดเวลาแบงก์รัฐลดเงินนำส่งเข้ากองทุนหวังช่วยลดภาระลูกหนี้

คลังไฟเขียวยืดเวลาแบงก์รัฐลดเงินนำส่งเข้ากองทุนหวังช่วยลดภาระลูกหนี้

คลังไฟเขียว 4 แบงก์รัฐยืดระยะเวลาลดเงินนำส่งกองทุนที่ 0.125% ออกไปอีก 1 ปี ขณะที่ คลังตั้งเกณฑ์ให้นำต้นทุนที่ลดลงไปช่วยบรรเทาภาระรายจ่ายให้แก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ

รายงานข่าวจาก กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจที่มีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการปรับลดเงินนำส่งเข้ากองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ(แบงก์รัฐ)จาก 0.25% เหลือ0.125% ของยอดเงินฝากที่ได้รับฝากจากประชาชนออกไปอีก 1 ปี หรือจนถึงสิ้นปี 66 เพื่อช่วยบรรเทาภาระรายจ่ายให้แก่ลูกหนี้แบงก์รัฐที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และยังไม่ฟื้นตัวจากการแพร่ระบาดของโควิด โดยเร็วๆ นี้กระทรวงการคลังจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเห็น(ครม.)เห็นชอบต่อไป

รายงานข่าวกล่าวว่า การมีมติดังกล่าวจะทำให้ธนาคารรัฐทั้ง 4 แห่งที่มีการรับฝากเงินจากประชาชนประกอบด้วย ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย สามารถลดเงินนำส่งได้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งจะทำให้มีความสามารถในการช่วยเหลือลูกหนี้ได้มากขึ้น และป้องกันไม่ให้เกิดเป็นหนี้เสียอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ในการปรับลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฯ ในครั้งนี้ ทางสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้กำหนดเงื่อนไขว่าแบงก์รัฐจะต้องนำภาระเงินนำส่งที่ลดลงไปช่วยเหลือลูกหนี้ โดยเฉพาะกลุ่มที่เดือดร้อนตัวจริง จะไม่หว่านแหช่วยเหลือลูกหนี้ทั้งหมด เพราะบางส่วนมีความสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ปกติแล้วดังนั้น จึงไม่มีการตรึงหรือลดดอกเบี้ยอ้างอิง เช่น เอ็มแอลอลาร์ เอ็มโออาร์ และเอ็มอาร์อาร์ แต่อาจเห็นมาตรการช่วยเหลือเป็นการเฉพาะมากขึ้น

ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ กล่าวว่า การขยายเวลาลดเงินนำส่งเข้ากองทุนฯ อีก 1 ปีจะช่วยให้ธนาคารรัฐมีความสามารถช่วยเหลือลูกหนี้เพิ่มขึ้นได้แน่นอน แต่หลังจากนี้จะต้องรอดูความชัดเจนของเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนดก่อนว่าเป็นอย่างไร เพื่อให้แต่ละแบงก์รัฐนำไปบริหารจัดการ ช่วยลูกหนี้ให้เหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์ของตนเอง

“ขอให้ลูกค้าของแบงก์รัฐเบาใจได้ว่า จะไม่เห็นการขึ้นดอกเบี้ยอ้างอิงทีละ 0.4% เหมือนกับธนาคารพาณิชย์ เพราะขณะนี้ กระทรวงการคลัง ได้ขยายเวลาลดเงินนำส่งให้แล้วครึ่งหนึ่ง อย่างไรก็ดี ต่อไปแบงก์รัฐก็อาจจะขึ้นดอกเบี้ยได้บ้าง แต่จะขึ้นให้สอดคล้องตามภาวะตลาด รวมถึง จะดูแลประชาชนให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ตามนโยบายของกระทรวงการคลัง”

ทั้งนี้ ในส่วนของธนาคารอาคารสงเคราะห์ ล่าสุด ได้จัดทำมาตรการ 23 ช่วยเหลือลูกค้าที่เป็นหนี้เสียหรืออยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ของธนาคาร ที่ยังได้รับผลกระทบด้านรายได้จากปัญหาโควิดโดยให้ได้รับความช่วยเหลือนานสูงสุด 2 ปี เลือกได้ 2 แนวทาง ประกอบด้วย เลือกผ่อนชำระเริ่มต้น 1,000 บาท คิดดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 6 เดือน หรือ เลือกผ่อนชำระเริ่มต้น 1,500 บาท อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปีนาน 9 เดือน ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้ามาตรการผ่านแอพพลิเคชัน GHB ALL BFRIEND ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิ.ย.66