บอร์ดสลากพร้อมตัดโควตาผู้ค้าสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกราย

บอร์ดสลากพร้อมตัดโควตาผู้ค้าสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกราย

บอร์ดสลากพร้อมตัดโควตาผู้ค้าสลากผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ทุกราย เพื่อนำไปจัดสรรให้รายย่อยที่ขึ้นทะเบียนไว้ และนำไปขายผ่านแพลตฟอร์มเป๋าตัง ตั้งเป้าเพิ่มสลากดิจิทัล 50 ล้านใบใน 3 ปี

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า จากผลการจำหน่ายสลากดิจิทัลในงวดที่ผ่านมา งวดวันที่ 17 มกราคม 2566 นั้น มีจำนวนทั้งสิ้น 17 ล้านใบ ใช้เวลาจำหน่ายหมด 10 วัน มีผู้ซื้อ 1.8 ล้านคน ถือว่าเป็นกระแสตอบรับที่ดี แต่มองว่ายังขายหมดเร็วเกินไป ดังนั้นในปี 2566 สำนักงานสลาก ตั้งเป้าหมายว่า ภายในเดือนธันวาคม 2566 จะมีการเพิ่มสลากดิจิทัล เป็น 30 ล้านใบ  โดยจะค่อยๆ ทยอยขึ้นเป็นทีละงวดตามความเหมาะสม

แผนในระยะยาว ใน 3 ปี จะมีการเพิ่มสลากดิจิทัลให้เป็นครึ่งหนึ่งของจำนวนสลากทั้งหมด คือในปี 2567 ตั้งเป้าหมายมี สลากดิจิทัล 40 ล้านใบ และในปี 2568 เพิ่มเป็น 50 ล้านใบ  ทั้งนี้การผลการดำเนินการแก้ปัญหาสลากดิจิทัลปัจจุบัน มีผลที่เห็นได้ชัด จากจำนวนสายร้องเรียนที่เข้ามาถึง สำนักงานสลากเรื่องขายเกินสลากราคาลดลงถึง 80% สะท้อนให้เห็นว่าการแก้ไขปัญหาทำได้จริง

ส่วนสลากดิจิทัลที่จะมาเพิ่มให้ครบ 30 ล้านใบนั้นจะมาจาก 4 ทาง  1.จากการตัดสิทธิโควตาผู้ค้าที่กระทำผิดกติกา ไม่ว่าตรวจค้นพบว่าขายต่อให้แพลตฟอร์มออนไลน์ และตรวจสอบจากการนำสลากมาขึ้นรางวัล  2.ทางสมัครใจ โดยเมษายน นี้ สำนักงานสลากได้ออกเกณฑ์ใหม่ โดยจะลดจำนวนสลาก ผู้ค้าซื้อจองได้รับเหลือคนละ 3 เล่มต่องวด แต่หากผู้ค้าซื้อจองรายไหนต้องการสลากเพิ่ม การให้ทางเลือกสมัครจำหน่ายสลากดิจิทัล ก็ได้รับสลาก 5 เล่มต่องวด

3.ผลิตภัณฑ์ใหม่ แอล 6 คือ สลากที่ไม่ต้องพิมพ์เป็นใบ แต่ขายในรูปแบบออนไลน์ได้ ซึ่งอยู่ระหว่างการนำเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และจะนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป  และ 4.จากโควตามูลนิธิ องค์กรการกุศล ที่ให้ผู้ค้ามาเข้าร่วมจำหน่ายสลากดิจิทัลโดยสมัครใจ

“ในปี 2566 จะเดินหน้าตัดสิทธิตัวแทนจำหน่ายที่นำสลากไปขายต่อ ทั้งในส่วนโควตา และซื้อจองอย่างเข้มข้น เพื่อนำสิทธิมาเพิ่มในสลากดิจิทัล และโควตาซื้อ-จอง เบื้องต้น มีการตัดสิทธิ 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นของสลากจากการตรวจสอบกองสลากพลัส 11 ล้านใบ ซึ่งยังไม่รู้ว่ามีจำนวนเท่าใด และ 2 จากผู้นำสลากมาขึ้นเงินรางวัล เบื้องต้นพบมีผู้เข้าข่ายกระทำผิดจะถูกตัดสิทธิไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นราย ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ในปี 2565 มีการตัดสิทธิผู้กระทำผิดไปแล้ว 1.6 หมื่นราย”

เขากล่าวด้วยว่า การขายสลากดิจิทัล ในราคาใบละ 80 บาท บนแอปเป๋าตัง นั้นเป็นเพียงช่องทางการขาย ที่ให้ตัวแทนจำหน่ายรายย่อย ไม่ใช่สำนักงานสลากขายเอง ดังนั้น สำนักงานไม่ได้รายได้หรือกำไรเพิ่ม และการออกแบบแพลตฟอร์มก็เป็นไปตามหลักเกณฑ์กติกาของกฎหมาย ดังนั้น ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มอื่นๆ หรือไม่ได้มีการออกแบบการขายดิจิทัลเลียนแบบตามใคร เพราะเรามีกฎหมาย ดำเนินการทุกอย่างตามกระบวนการ 

ส่วนการขึ้นรางวัล ผ่านแอปเปาตัง แล้วเสียค่าธรรมเนียมขึ้นรางวัล 1%  นั้น เป็นกฎหมายที่ถูกกำหนดไว้ก่อนมีการขายสลากดิจิทัลแล้ว เช่นเดียวกับการบริการขึ้นรางวัลที่สถาบันการเงินของรัฐ แต่หากผู้ใดไม่ต้องการเสียค่าธรรมเนียมนี้ ก็มีทางเลือก คือ การขึ้นรางวัล ที่สำนักสลาก ก็จะเสียเพียงค่าอากรแสตมป์ยกเว้นกรณีรางวัลที่ 1 ที่จะต้องมาขึ้นที่สำนักงานสลากเท่านั้น ส่วนสถิติผู้ถูกรางวัลสลากดิจิทัล มีการขึ้นรางวัล และรับเงินผ่านจี วอลเล็ต จำนวน 50% ของผู้ขึ้นรางวัล และเลือกขึ้นผ่านการผูกบัญชีธนาคารกรุงไทยอีก 50% 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์