"ลิเบอเรเตอร์" ปลดล็อกต้นทุน ผุดแพลตฟอร์มเทรดหุ้นค่าฟี0%
“บล.ลิเบอเรเตอร์” เปิดตัวแพลตฟอร์มเทรดหุ้น"ไม่มีค่าธรรมเนียม” หวังปลดล็อกต้นทุน สร้างความเท่าเทียม เปิดทางรายย่อยคนรุ่นใหม่ เพิ่มมูลค่าลงทุนของตัวเอง ต้นทุนซื้อขายต่ำสุด
จากพฤติกรรมของคนที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในการเทรดหุ้นในต่างประเทศที่เหลือช่องทางออฟไลน์ 10% สะท้อนเทรนด์การทำธุรกรรมผ่านออนไลน์เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งประเทศไทย และแนวคิดที่อยากให้มีช่องทางหนึ่งที่เปิดกว้างให้บรรดาผู้ลงทุนนำเงินที่มีอยู่มาสร้างมูลค่าเพิ่ม ที่สำคัญต้องสามารถตัดสินใจด้วยตัวเอง และมีต้นทุนที่ต่ำที่สุด
ด้วยจุดเด่นของ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)ลิเบอเรเตอร์ จำกัด สามารถดำเนินธุรกิจบนช่องทางดิจิทัลได้ ด้วยลดต้นทุนด้านจำนวนคนจำนวนสาขา และอุปกรณ์ต่างๆ โดยเราจะใช้เทคโนโลยีมาช่วยด้านความปลอดภัยทางเทคโนโลยี
นายบากบั่น บุญเลิศ ประธานกรรมการ บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ความมุ่งมั่นในเรื่องเดียว คือ การสร้างแพลตฟอร์ม “Liberator” ในลักษณะของ Community ที่เปิดทางให้กับนักลงทุนรายย่อย หรือคนรุ่นใหม่สามารถเพิ่มมูลค่าการลงทุนของตัวเอง ด้วยต้นทุนการเทรดหุ้นที่ต่ำที่สุด ด้วยไม่มีสาขาและอยู่บนแพลตฟอร์มมือถือ ที่สามารถเดินทางไปคู่กับนักลงทุนในทุกๆ ที่
โดยเฉพาะนักลงทุนรายย่อยที่ปัจจุบันนักลงทุนหน้าใหม่ที่เข้าสู่ตลาดปีละ 2-3 แสนราย แต่มีนักลงทุนที่ออกจากตลาดไปราว 30-40% ต่อปี ซึ่งปัญหาคือนักลงทุนไม่รู้ในเรื่องของ “ต้นทุน” ซึ่งเป็นการตอบโจทย์โลกยุคดิจิทัล และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป แก้ปัญหาการซื้อขายหุ้นให้มีความเท่าเทียมและเป็นธรรม และเจตจำนงค์สำคัญของ Liberator คือมุ่งสู่การเป็นหนึ่งในกลไกของการสร้างนักลงทุนรายใหม่ เข้าสู่การลงทุนในอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ ตราสาร และตลาดทุนเพิ่มขึ้น สร้างการลงทุนที่มีความเข้มแข็งและมีคุณค่า ทั้งนี้ ขอขอบคุณตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสมาคมโบรกเกอร์ที่ให้การอนุมัติและสนับสนุน Liberator ให้กลายมาเป็นหนึ่งในทางเลือกของนักลงทุน
นางสาวภาวลิน ลิมธงชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า แพลตฟอร์ม Liberator เป็นดิจิทัลโบรกเกอร์ และชูจุดแข็งคือการคิดค่าคอมมิชชัน 0% ซึ่งได้รับการรับรองจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และยืนยันว่าเราไม่ได้เข้าสู่สนามธุรกิจบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อทำลายตลาดดั้งเดิมที่มีอยู่ แต่เพื่อสร้างนวัตกรรมด้านการลงทุน และเปิดประสบการณ์แนวใหม่ซึ่งจะเป็นผลดีต่อนักลงทุน และสังคมของเรา โดยLiberator จะไม่หยุดในการเป็นเพียงบริษัทหลักทรัพย์ที่มีเพียงผลิตภัณฑ์ทางการเงินแค่หุ้นหรือ TFEX เท่านั้น แต่จะเพิ่มนวัตกรรมการเงินอื่นๆ เข้ามาในแอปพลิเคชั่นเพื่อตอบโจทย์ความเป็น Social Investing Platform ให้มากขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับโบรกของเรา และยังตั้งเป้าหมายในการหาลูกค้าจากยอด MAU หรือ Monthly Active User ในจำนวน 10% หรืออย่างต่ำ 50,000 รายในสิ้นปี 2566
"แพลตฟอร์มลิเบอเรเตอร์ มีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจเทคโนโลยีการเงิน (Fintech) ผ่านการให้บริการธุรกิจทางด้านการเงินการลงทุนที่หลากหลายและครบวงจรแก่นักลงทุน โดยมีบริษัทในกลุ่มที่ให้บริการด้านการลงทุน"
ขณะเดียวกัน บล.ลิเบอเรเตอร์ จะพัฒนาผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่นเข้ามาเสริมเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้าในอนาคตไม่ว่าจะเป็นรายได้จากการเป็นผู้ดูแลรับฝากทรัพย์สิน (Custodian) ให้กับบริษัท เนสท์ติพลาย จำกัด ผู้ผลิตแอปพลิเคชั่น ชื่อ StockLend ให้บริการธุรกรรมสินเชื่อระหว่างบุคคลและบุคคลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (Peer-to-Peer Lending Platform) รายแรกในประเทศไทย ที่ได้รับการกำกับโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) โดยแอปพลิเคชันที่เชื่อมต่อระหว่างนักลงทุนกับผู้ขอสินเชื่อ โดยใช้หุ้นใน SET100 เป็นหลักประกันบริษัทเป็นผู้รับจำนำหลักทรัพย์ และดูแลธุรกรรมการโอนเงิน , การให้วงเงิน margin กับลูกค้า,กองทุน, หุ้นกู้, หลักทรัพย์ต่างประเทศ และอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ด้วยวิสัยทัศน์ที่อยากให้ผู้ลงทุน และผู้ที่คิดอยากเริ่มต้นการลงทุนในประเทศสามารถเข้าถึงตลาดทุนมีข่าวสารที่พร้อมสำหรับรองรับการตัดสินใจให้เกิดการสร้างนิสัยการลงทุนของคนในประเทศให้กว้างขวาง และขยายขนาดได้ใหญ่ขึ้นและมีต้นทุนด้านความรู้ความเข้าใจทางการเงินที่ถูกต้องที่สุดรวมทั้งจะเป็นแพลตฟอร์มที่สร้างค่าธรรมเนียมที่เป็นธรรม