เปิด 10 อันดับกองทุน’หุ้นเทคโนโลยี’ ผลตอบแทนสูงสุด ด้วยนวัตกรรมเด่นในอนาคต
10 อันดับกองทุนหุ้นเทคโนโลยีผลตอบแทนสูงสุด ด้วยนวัตกรรมแห่งอนาคตเติบโตโดดเด่น “กองทุน ASP-DIGIBLOC-SSF” ผลตอบแทนนำโด่ง “จิตตะ เวลธ์ -ดาโอ” ชี้ตั้งแต่ต้นปีราคาหุ้นกลุ่มเทคฯ เริ่มฟื้นตัว และผลตอบแทนการลงทุนโดดเด่นในระยะยาว
key points :
- ตั้งแต่ต้นปีมานี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เริ่มฟื้นตัว Nasdaq ปรับขึ้นมาแล้วกว่า 13.80% ทำผลงานได้ดีกว่า S&P500 และ Dow Jones
- 10 อันดับ กองทุนหุ้นเทคโนโลยี ที่มีผลตอบแทนสูงสุด พบว่า มีผลตอบแทน (YTD ) ระดับไม่ต่ำกว่า 20%
- กองทุน ASP-DIGIBLOC-SSF บลจ. แอสแซทพลัส มีผลตอบแทนนำโด่ง 39.79 % ลงทุนในหุ้นบริษัท/ ETF สินทรัพย์ดิจิทัล /มีรายได้หรือเกี่ยวข้องกับระบบสินทรัพย์ดิจิทัล /ได้รับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน
- บลจ.จิตตะ เวลธ์ - บลจ. ดาโอ ประสานเสียงหุ้นกลุ่มนวัตกรรมทั่วโลก มีโอกาสปรับตัวขึ้น และมีศักยภาพสร้างพอร์ตการลงทุนในระยะยาว
ถึงแม้ว่า"หุ้นเทคโนโลยี" ทั่วโลกมีความเสี่ยงและผันผวนสูง
ในปี 2565 ที่ผ่านมา "หุ้นเทคโนโลยี" ปรับลดลงแรง จากแรงกดดันนโยบายการเงินตึงตัวของธนาคารกลางสหรัฐฯ ตลาดหุ้น Nasdaq ติดลบไปถึง -33.10% แต่อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เปิดปี 2566 เป็นต้นมา หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี 'เริ่มฟื้นตัว'
ซึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่ลดลง และแรงผ่อนคลายการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่อาจจะไม่ได้ขึ้นแรงเหมือนปีก่อนนั่นเอง
โดยดัชนี Nasdaq ปรับขึ้นจากต้นปีมาแล้วกว่า 13.80% ทำผลงานได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับ S&P500 และ Dow Jones
กองทุนรวมหุ้นเทคโนโลยีที่มีผลตอบแทนสูงสุด 10 อันดับ ตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน ( ณ 9 ก.พ.2566)
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช(ประเทศไทย) ระบุว่า
1 . บลจ. แอสแซทพลัส ASP-DIGIBLOC-SSF ผลตอบแทน 39.79 % : มีนโยบายการลงทุนใน หุ้นบริษัท/ ETF สินทรัพย์ดิจิทัล /มีรายได้หรือเกี่ยวข้องกับระบบสินทรัพย์ดิจิทัล /ได้รับประโยชน์จากการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชน เช่น เพิ่มประสิทธิภาพหรือลดต้นทุนในการดำเนินงาน เป็นต้น
2.บลจ.ทิสโก้ TNEXTGEN-A ผลตอบแทน 27.88 % : มีนโยบายการลงทุนใน ARK Next Generation Internet ETF (กองทุนหลัก)
3. บลจ.ดาโอ DAOL-CYBER ผลตอบแทน 25.36 % : มีนโยบายการลงทุนใน ARK Next Generation Internet ETF (กองทุนหลัก)
4.บลจ.ทีเอ็มบี อีสท์สปริง TMB-ES-INTERNET ผลตอบแทน 24.22 % : มีนโยบายการลงทุนใน ARK Next Generation Internet ETF (กองทุนหลัก)
5.บลจ.ไทยพาณิชย์ SCBNEXT(E) ผลตอบแทน 23.34 % : มีนโยบายการลงทุนใน ARK Next Generation Internet ETF (กองทุนหลัก)
6.บลจ.ไทยพาณิชย์ SCBSEMI(SSFE) มีผลตอบแทน 21.57 % : มีนโยบายการลงทุนใน VanEck Semiconductor UCITS ETF (กองทุนหลัก)
7.บลจ.เอ็มเอฟซี M-META มีผลตอบแทน 21.12 % : มีนโยบายการลงทุนใน Roundhill Ball Metaverse ETF (กองทุนหลัก)
8.บลจ. กรุงศรี KFGTECHRM มีผลตอบแทน 20.92 % : มีนโยบายการลงทุนใน T. Rowe Price Funds SICAV - Global Technology Equity Fund (Class Q) (กองทุนหลัก) เน้นบริษัทผู้นำทางด้านเทคโนโลยีทั่วโลก รวมถึงประเทศในตลาดเกิดใหม่
9.บลจ. วรรณ ONE-METAVERSE มีผลตอบแทน 20.79% : มีนโยบายการลงทุนใน หุ้นบริษัทที่ได้ประโยชน์ และมีรายได้ ทางตรงและทางอ้อม/ETF ที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์ กิจกรรม บริการ หรือเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับ METAVERSE /VIRTUAL-PLATFORM/ SOCIAL MEDIA / COMMUNICATION SERVICES
10.บลจ.ไทยพาณิชย์ SCBBLOC(E) ผลตอบแทน 20.14% : มีนโยบายการลงทุนใน Invesco Elwood Global Blockchain UCITS ETF (กองทุนหลัก)
บลจ. แนะ"หุ้นนวัตกรรมทั่วโลก" โตเด่นระยะยาว
ทางด้านผู้จัดการกองทุน แนะนำการลงทุนหุ้นนวัตกรรมทั่วโลกหลังจากนี้ ยังมีโอกาสที่ผลตอบแทนปรับตัวขึ้น สามารถสร้างพอร์ตการลงทุนในระยะยาวได้
"ตราวุทธิ์ เหลืองสมบูรณ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.จิตตะ เวลธ์ ให้มุมมองว่า จากข้อมูลของ OECD พบว่า ประเทศใดที่ให้ความสำคัญในการวิจัยและพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ก็จะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประเทศสหรัฐฯ และ จีนเป็นประทศหลักที่มีการลงทุนในด้านเทคโนโลยีมากที่สุดในโลก
ดังนั้น จิตตะ เวลธ์ มองว่า โอกาสในการลงทุนกลุ่มเทคโนโลยียังคงเปิดกว้าง ให้กับนักลงทุนทั่วโลก โดยเฉพาะเทคโนโลยีในหลายประเภทที่ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่มีศักยภาพในการเติบโตสูง เช่น จีโนมิกส์ พลังงานสะอาด หรือ เทคโนโลยีด้านไซเบอร์ซิเคียวริตี ซึ่งหากเทคโนโลยีเหล่านี้ได้รับความสนใจในวงกว้าง บริษัทที่ทำธุรกิจในด้านนี้จะได้รับอานิสงส์และมีผลประกอบการที่โดดเด่นในอนาต
นอกเหนือจากตั้งแต่ต้นปี2566 มานี้ หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง ในส่วนของบลจ.จิตตะ เวลธ์ มีธีมการลงทุนที่เข้าไปลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีแนว Thematic หลายธีม เช่นธีมอีคอมเมิร์ซ ธีมเมตาเวิร์สและธีมเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งผลตอบแทนถือว่าอยู่ในระดับที่ดี โดยอยู่ที่ 25.14% 24.23% และ 21.81% ตามลำดับ
“การลงทุนในหุ้นเทคโนโลยีมีโอกาสสร้างผลตอบแทนโดดเด่นในระยะยาว แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและความผันผวนที่มากขึ้น นักลงทุนที่มองเห็นโอกาสการลงทุนระยะยาวและสามารถรับความเสี่ยงได้สูง หุ้นเทคโนโลยีเป็นอีกตัวเลือกที่จะช่วยสร้างพอร์ตการลงทุนของนักลงทุนงอกเงยเติบโตได้ในอนาคต”
"นิสารัตน์ ชมภูพงษ์" ประธานเจ้าหน้าที่บริหารจัดการลงทุน บลจ.ดาโอ ระบุว่า ช่วงการปรับตัวลงของตลาดตราสารทุนตั้งแต่ปี 2564 พบว่าหุ้นกลุ่มนวัตกรรมได้ถูกขายมากที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดอื่น โดยดัชนี MSCI ACWI IMI Innovation Index ได้ปรับตัวลงมา -36 % จากจุดสูงสุด เทียบกับดัชนี MSCI ACWI Growth Index ที่ปรับตัวลงมา -29% ส่วน ดัชนี MSCI ACWI Index ปรับตัวลง -18% และ กับ MSCI ACWI Value Index ที่ปรับตัวลงมา -8% ทำให้ราคาหุ้นกลุ่มนวัตกรรมถูกประเมินว่ามีมูลค่าที่ถูกลงมาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ (Source: Goldman Sachs Asset Management as of January 2023)
บลจ.ดาโอ มองว่า หุ้นในกลุ่มนวัตกรรมทั่วโลกมีโอกาสปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นโอกาสในการลงทุน และและศักยภาพในการสร้างพอร์ตการลงทุนในระยะยาว
"เทคโนโลยีที่สำคัญ เช่น A.I. , Big Data, ธุรกรรมการเงินออนไลน์, รถยนต์ไฟฟ้า และความมั่นคงด้านพลังงาน ถือเป็นเทรนด์ในระยะยาว ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาธุรกิจและการใช้ชีวิตของมนุษย์ในปัจจุบันและอนาคต เราเชื่อว่ามีศักยภาพในการพัฒนาให้เติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน"