สรรพากรเผยพบบุคคลธรรมดาขอคืนภาษีผิดปกติ 15%
สรรพากรเผยพบบุคคลธรรมดาขอคืนภาษีผิดปกติ 15% จากยอดที่ขอคืน 1.4 ล้านราย เดินหน้าตรวจสอบเข้ม ประเมินรายได้จัดเก็บดีขึ้นทั้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นิติบุคคลและมูลค่าเพิ่ม
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า กรมฯ ประเมินว่า ยอดการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและนิติบุคคลในปีนี้จะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยในส่วนของการจัดเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้นขณะนี้ อยู่ในช่วงของการเปิดให้ผู้มีเงินได้เข้ามายื่นแบบชำระภาษี หรือ นับตั้งแต่เดือนม.ค.ถึง มี.ค.ของทุกปี ส่วนการยื่นแบบภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น ได้ทยอยยื่นผ่านการชำระภาษีเงินได้นิติบุคคลปีละ 2 ครั้ง และภาษีมูลค่าเพิ่มชำระทุกเดือน กรมฯ จึงเห็นยอดการชำระภาษีที่มีแนวโน้มดีขึ้น
สำหรับ ผลการยื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดานั้น ล่าสุดได้รับรายงานมีผู้ยื่นแบบแล้ว 2.4 ล้านราย ในจำนวนนี้ ประสงค์ขอคืนภาษีจำนวน 1.4 ล้านคน ทางกรมฯ ได้คืนภาษีแล้วประมาณ 70% ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ ในจำนวนที่ยื่นแบบดังกล่าว เป็นการยื่นแบบทางระบบออนไลน์ 95%
เขากล่าวว่า ในปีนี้ จะเป็นปีที่กรมฯ ตรวจสอบการคืนภาษีที่มีความรอบคอบและเข้มข้นมากขึ้น โดยระบบAIจะเข้ามาช่วยตรวจสอบ หากพบความผิดปกติทางกรมฯ จะขอข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้เกิดความล่าช้าในการคืนภาษี ทั้งนี้ โดยปกติแล้ว หากไม่พบความผิดปกติในการยื่นแบบชำระภาษี ทางกรมฯจะคืนภาษีภายใน 3 วันทำการเท่านั้น แต่หากพบความผิดปกติ การคืนภาษีจะล่าช้ากว่านั้นหรือเกินกว่า 7 วันทำการ
“ในจำนวนที่กรมฯ ยังไม่ได้ทำการคืนภาษีให้อีกประมาณ 30% จากผู้ที่ขอคืนภาษีนั้น เราพบว่า มีประมาณ 10-15% ที่มีความผิดปกติในการยื่นแบบ ดังนั้น เราจึงต้องตรวจสอบที่เข้มข้นขึ้น”เขากล่าวและว่า ทั้งนี้ ในแต่ละปีจะมีผู้ยื่นแบบชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประมาณ 11 ล้านคน ในจำนวนนี้ เป็นผู้เสียภาษีประมาณ 4 ล้านคนเท่านั้น
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์