สรรพสามิตพร้อมลงโทษเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินผิดกฎหมาย

สรรพสามิตพร้อมลงโทษเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินผิดกฎหมาย

สรรพสามิตพร้อมลงโทษเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินจากประชาชนโดยผิดกฎหมาย ยันกรมฯไม่มีนโยบายเรียกเก็บภาษีหรือค่าปรับเป็นการส่วนตัว แต่ต้องกระทำที่สรรพสามิตพื้นที่หรือสถานีตำรวจเท่านั้น

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิตเปิดเผยว่า กรมฯได้ออกคำสั่งเข้าตรวจสอบอย่างจริงจังกรณีที่พบเจ้าหน้าที่ของกรมฯกระทำการเรียกรับเงินโดยผิดกฎหมาย หากพบความผิดจะดำเนินตามบทลงโทษที่มี ขณะเดียวกัน หากพบว่า การแอบอ้างเรียกรับเงินเป็นการกระทำจากกลุ่มมิจฉาชีพกรมฯก็พร้อมจะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนได้สังเกตว่า หากเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมฯจริงจะสวมเครื่องแบบทุกครั้งที่ปฏิบัติงานและต้องมีบัตรประจำตัวเจ้าหน้าที่เพื่อแสดงตนทุกครั้ง กรณีมีการเรียกเก็บค่าปรับจากกรมฯจริง ถ้าวงเงินปรับต่ำว่า 5 หมื่นบาท จะต้องทำการเสียค่าปรับที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่เท่านั้น และถ้าตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป จะต้องมีการลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจก่อน แล้วจึงจะมีการเสียค่าปรับที่สำนักงานยืนยันว่า ไม่มีการจัดเก็บแบบส่วนบุคคลแน่นอน เพื่อให้เกิดความโปร่งใส

สำหรับผลการจัดเก็บรายได้ของกรมฯในช่วง 4 แรกของปีงบประมาณ 2566 นั้น เขากล่าวว่า ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าเป้าหมายตามเอกสารประมาณ 10% ซึ่งมีสาเหตุมาจากมาตรการลดอัตราภาษีน้ำมันดีเซลเพื่อช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาล ทำให้กรมฯสูญรายได้เดือนละประมาณ 1 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดีภาษีประเภทอื่นๆ ของกรมฯยังคงจัดเก็บได้เกินเป้าหมาย ทั้งสินค้าเบียร์ รถยนต์ และเครื่องดื่ม โดยจัดเก็บได้เกินเป้าหมายประมาณ 10% ทุกรายการ 

“สำหรับภาษีตัวที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมาย เนื่องจาก ประชาชนมีการบริโภคเพิ่มสูงขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ และการเพิ่มประสิทธิภาพการจัดเก็บภาษีของกรม โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ เพื่อติดตามและป้องกัน การหลีกเลี่ยงภาษี อาทิ เบียร์ ที่มีรหัสควบคุมบนบรรจุภัณฑ์ (Direct Coding) เป็นการพิมพ์รหัสลงบนบรรจุภัณฑ์โดยตรง และไวน์ ที่มีแสตมป์สรรพสามิต ที่พิมพ์คิวอาร์ โค้ด ให้สามารถใช้สมาร์ทโฟน ตรวจสอบการรายละเอียดของไวน์  รวมถึงการเสียภาษีที่ถูกต้องได้”