สมาคมประกันชีวิต คาดปีนี้เบี้ยรับรวมทั้งระบบทรงตัว 0-2% เกาะติดโลกผันผวน
“สาระ ล่ำซำ” ชี้ธุรกิจประกันชีวิตติดตามความผันผวนทั้งเศรษฐกิจโลกและในประเทศ รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย แนะเตรียมความพร้อมการลงทุน-ทิศทางธุรกิจให้ทันต่อสถานการณ์ทีเ่ปลี่ยนแปลงไป พร้อมตั้งเป้าปี 66 ทั้งอุตฯ มีเบี้ยรับรวม 612,500 - 623,500 ล้านบาท โตทรงตัว 0-2%
นายสาระ ล่ำซำ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย (TLAA) เปิดเผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2566 ประเมินว่ายังมีแนวโน้มฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจากข้อมูลของสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระบุว่า จะมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ที่ประมาณ 2.3-2.7%
ในส่วนของภาพรวมอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทย คาดการณ์ว่าจะทรงตัว โดยจะมีเบี้ยรับรวมที่ประมาณ 612,500 - 623,500 ล้านบาท อัตราการเติบโตอยู่ที่ระหว่าง 0-2% ส่วนอัตราความคงอยู่ของกรมธรรม์อยู่ที่ 81-82 %
“ธุรกิจประกันชีวิตในปีนี้ยังต้องติดตามสถานการณ์ความผันผวนทางเศรษฐกิจของโลกและเศรษฐกิจภายในประเทศ รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ย แต่ที่ผ่านมาภาคธุรกิจได้เตรียมความพร้อมในการปรับพอร์ตทั้งในส่วนของการลงทุนและ Product Mix และทิศทางกลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทประกันชีวิตที่ต้องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์อย่างทันท่วงที รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรฐานกฏหมายสากลอีกด้วย”
อย่างไรก็ตามในปีนี้สมาคมฯได้มีแผนการดำเนินงานเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือต่อปัจจัยท้าทายรอบด้าน เช่นการส่งเสริมให้มีการพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตรูปแบบใหม่ ผลักดันกระบวนการให้ความเห็นชอบผลิตภัณฑ์แบบอัตโนมัติ รวมถึงการผ่อนคลายการคำนวณอัตราเบี้ยประกันภัยที่เหมาะม สนับสนุนการพัฒนากระบวนการขายให้ครบทุกช่องทาง สนับสนุนเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน รวมถึงการสร้างองค์ความรู้ให้แก่ประชาชนถึงการป้องกันและรู้เท่าทันเทคโนโลยี เป็นต้น
ในส่วนของเทรนด์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตในปีนี้ แบบประกันที่จะได้รับความนิยมและมีศักยภาพเติบโตสูง คือ ผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและโรคร้ายแรง เนื่องจากมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง และมีการบริการหลังการขายที่ครบวงจร ทั้งระบบออนไลน์ และ ออฟไลน์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุน หรือ Unit Linked เนืองจากนักลงทุนเริ่มมองหาช่องทางการลงทุนใหม่ที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้นภายใต้ระดับวามเสี่ยงที่พอรับได้ รวมถึงได้รับความคุ้มครองจากการประกันชีวิตรวมอยู่ด้วย
สำหรับผลการดำเนินงานของอุตสาหกรรมประกันชีวิตไทยในปี 2565
มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 611,374 ล้านบาท เติบโตลดลง 0.45% ต่ำกว่าเป้าหมายที่เคยได้ตั้งเป้าไว้ที่ 0-2% แบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยรับรายใหม่ 169,878 ล้านบาท ลดลง 0.49% โดยแบ่งเป็น เบี้ยประกันภัยรับปีแรก 105,192 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.42% เบี้ยประกันภัยจ่ายครั้งเดียว 64,686 ล้านบาท ลดลง 14.27% และเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป 441,496 ล้านบาท ลดลง 0.43% โดยมีอัตราความคงอยุ่ของกรมธรรม์ร้อยละ 82
ในส่วนของของเบี้ยประกันภัยรับรวมแบ่งตามช่องทางการจัดจำหน่าย แบ่งเป็น ช่องทางการขายผ่านตัวแทน 325,227 ล้านบาท เติบโต 1.43% คิดเป็นสัดส่วน 53.20% ช่องทางการขายผ่านธนาคาร 235,788 ล้านบาท เติบโตลดลง 3.39% คิดเป็นสัดส่วน 38.57% ช่องทางนายหน้า 26,516 ล้านบาท เติบโต 8.63% คิดเป็นสัดส่วน 4.34% ช่องทางขายตรง 13,981 ล้านบาท เติบโตลดลง 2.04% คิดเป็นสัดส่วน 2.29% ช่องทางดิจิทัล 1,738 ล้านบาท เติบโต 29.11% คิดเป็นสัดส่วน 0.28% และช่องทางอื่นๆ 8,124 ล้านบาท เติบโตลดลง 13.44% คิดเป็นสัดส่วน 1.33%