กรุงศรีคอนซูมเมอร์ รุกโกยลูกค้าดิจิทัล ลุย‘สินเชื่อซื้อก่อนผ่อนทีหลัง’
กรุงศรีคอนซูมเมอร์ เปิดกลยุทธ์ปี 2566 รุกลูกค้าบนดิจิทัล คาดฐานลูกค้าดิจิทัลโต20%ปีนี้ พร้อมเปิดตัวสินเชื่อ “Bay Now Pay later” ซื้อก่อนผ่อนทีหลัง ไตรมาส2นี้ หวังเจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ลูกค้าไม่มีบัตรเครดิต-สินเชื่อส่วนบุคคล
นางสาวณญาณี เผือกขำ ประธานกรรมการ กรุงศรีคอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล กล่าวว่า ภายใต้การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค ที่หันไปทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของกรุงศรีคอนซูมเมอร์ จะหันไปเติบโตผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น
โดยเฉพาะฐานลูกค้าใหม่ที่จะมาจากช่องทางออนไลน์ ที่คาดว่า ปีนี้จะเติบโตระดับ 20% จากยอดฐานลูกค้าใหม่ของบริษัทที่คาดว่าจะอยู่ที่ 6.2แสนคนปีนี้ จากการตอบโจทย์การให้บริการลูกค้าผ่อนช่องทางออนไลน์ แอปพลิเคชั่น ฯลฯ
ทั้งนี้ เตรียมเปิดผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ สินเชื่อซื้อก่อนผ่อนทีหลัง Bay Now Pay Later ที่บริษัทมีแผนเปิดตัวในไตรมาส 2ปีนี้ เพื่อเจาะฐานลูกค้า ที่ยังไม่เคยมีบัตรเครดิต หรือใช้สินเชื่อบุคคลจากกรุงศรีฯ ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น
“การเข้ามาบุกในตลาดนี้ จะมีความชัดเจนในไตรมาส 2ปีนี้ แต่เราจะไม่เปรี้ยว หรือซ่า ในการเร่งเข้าไปปล่อยสินเชื่อ BNPL แบบประโคมเยอะๆ แต่จะค่อยๆทำ เพราะวันนี้การปล่อยสินเชื่อก็มีความเสี่ยง ดังนั้นเราจะค่อยๆเข้าไป และกลุ่มเป้าหมายของเรา คงเน้นที่มีรายได้1.5หมื่นบาทต่อเดือน หรือดูจากเครดิตผู้กู้เป็นหลัก และเน้นเอาข้อมูลอื่นๆมาประกอบการพิจารณาในการปล่อยสินเชื่อด้วย”
สำหรับเป้าหมายการเติบโตของ การใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตปีนี้ คาดว่าจะเห็นการเติบโตต่อเนื่อง จากการกลับมาใช้จ่ายปกติมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวต่างๆ ทำให้คาดว่ายอดใช้จ่ายปีนี้จะเติบโตได้ที่ 6% หรือ3.5แสนล้านบาท
ขณะที่ยอดสินเชื่อใหม่คาดโต13% หรือ 9.7 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ยอดคงค้างเพิ่มขึ้นราว 7% หรือเป็น 1.55แสนล้านบาทได้ในปีนี้
ส่วนแนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือ เอ็นพีแอล คาดว่าจะทรงตัว โดยคาดบัตรเครดิตอยู่ที่ระดับ1%สินเชื่อส่วนบุคคลอยู่ที่ 2.5%ใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า ซึ่งยังมองว่า ส่วนหนึ่ง มาจากการที่บริษัทยังคงเน้นการเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าอย่างต่อเนื่องผ่านมาตรการต่างๆ ในช่วงที่ลูกค้าเพิ่งเริ่มฟื้นตัว
ทั้งนี้ สำหรับการดำเนินธุรกิจปีนี้ บริษัทจะเน้นการขับเคลื่อนยุทธ์ศาสตร์ ตาม4 กลยุทธ์หลัก 1.การใช้นวัตกรรมและข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการทำธุรกิจ พัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่แตกต่าง ตอบโจทย์ ตรงใจ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และสร้างรายได้ผ่านช่องทางใหม่ ๆ
เช่น การขยายตลาดสินเชื่อส่วนบุคคล ผ่านสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล FirstChoice Snapcash, สินเชื่อส่วนบุคคล GrabFirst ซึ่งใช้ข้อมูลทางเลือกในการพิจารณาสินเชื่อ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงสินเชื่อให้ง่าย สะดวก และเท่าเทียมยิ่งขึ้นสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม, บริการ 0% Pay Later, การพัฒนาสิทธิประโยชน์ของผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตดิจิทัลให้ตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น
รวมถึง การนำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกมาใช้ในการทำการตลาดเฉพาะบุคคล เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และ โปรโมชันที่ตรงใจลูกค้ายิ่งขึ้น และการพัฒนาการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัล เช่น U CARD, U CASH, Automated Collection, AI Manow ผู้ช่วยอัตโนมัติของศูนย์บริการสมาชิกบัตรฯ ผ่านช่องทาง UCHOOSE, Facebook และ Call Center เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้ามากยิ่งขึ้น
2. ผสานความร่วมมือกับพันธมิตรในหลากหลายธุรกิจ เพื่อความเติบโต เพื่อผสานจุดแข็งของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในด้านผลิตภัณฑ์ทางการเงิน การบริหารความเสี่ยง นวัตกรรม ระบบการดำเนินงาน กับจุดแข็งของพันธมิตรในด้านเครือข่ายและฐานลูกค้า เพื่อสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจ ขยายโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าได้กว้างขวางยิ่งขึ้น
3. ผสานความร่วมมือของทุกภาคส่วนในเครือกรุงศรีภายใต้กลยุทธ์ Krungsri One Retail ซึ่งมุ่งเน้นการผสานความร่วมมือของหน่วยงานในกลุ่มธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าบุคคล
โดยยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง เพื่อมอบผลิตภัณฑ์และบริการที่ง่าย ครบ จบทุกเรื่องการเงิน สร้างความผูกพันกับลูกค้าในระยะยาว
4.การขยายธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อยสู่ภูมิภาคอาเซียน เช่น ลาว กัมพูชา ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม โดยผสานความร่วมมือกับบริษัทในเครือกรุงศรีในภูมิภาค เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ หรือหารายได้ผ่านช่องทางใหม่ ๆ
“กลยุทธ์ทั้งสี่ประการนี้ เป็นไปเพื่อเสริมศักยภาพของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้สอดรับกับสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจการเงินไว้ได้อย่างต่อเนื่อง และสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ตั้งเป้ายอดใช้จ่ายผ่านบัตร 350,000 ล้านบาท ยอดสินเชื่อใหม่ 97,000 ล้านบาท และจำนวนลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัลเติบโต 20% ภายในปี 2566”