ราคาทองในประเทศ ทำนิวไฮ ทะลุ 32,000 บาท หลังปัญหาวิกฤติธนาคารสหรัฐลามยุโรป

ในวันนี้ (20 มี.ค.) ราคาทองคำในตลาดโลก ขยับขึ้นทดสอบระดับ 2,009ดอลลาร์ออนซ์ แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 12 เดือน ขณะที่ราคาทองในประเทศ (ทองคำแท่ง 96.5%)  ราคาขึ้นทดสอบระดับ 32,150 บาท  สร้างระดับสูงสุดใหม่ เป็นประวัติการณ์  

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นเเนล จำกัด  หรือ YLG กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ราคาทองคำในตลาดโลกและราคาทองคำในประเทศ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างร้อนแรง จนสร้างระดับสูงสุดใหม่

เนื่องจากปัญหาวิกฤตธนาคารได้ลุกลามจากสหรัฐไปยังยุโรป แม้ว่าจะมีความพยายาม เสริมสภาพคล่อง ให้กับกลุ่มธนาคารที่มีปัญหา แต่นักลงทุนยังคงกังวลถึงความเสี่ยงต่อกลุ่มธนาคารดังกล่าว อาจการล้มละลายในอนาคต ตามธนาคารซิลิคอน วัลเลย์ แบงก์ (SVB) ของสหรัฐประกาศภาวะล้มละลายในวันศุกร์ และธนาคารเครดิต สวิส ในยุโรปก็ยังคงประสบปัญหาการไหลออกของเงินฝาก แม้ว่าธนาคารยูบีเอส (UBS) เข้าซื้อกิจการเมื่อวันที่ 19 มี.ค.

 

นอกจากนี้ เอสแอนด์พี โกลบอล เรทติ้งส์ (S&P) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ ธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิค แบงก์ (FRB) สู่ระดับขยะ (Junk) เนื่องจากการเสริมสภาพคล่องด้วยเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ที่ FRB นั้นไม่ช่วยแก้ไขปัญหาสภาพคล่องและเสริมสภาพทางการเงินของกิจจการ ทั้งนี้ ความเสี่ยงดังกล่าว กดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง

รวมทั้ง ตลาดหุ้นยุโรป  และ ดาวโจฟิวเจอร์   ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปรับตัวร่วงในวันจันทร์  จนกระตุ้นคาดการณ์ ที่ว่า การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำเดือนมี.ค. นี้ (ในวันพุธนี้)  เฟด อาจตัดสินใจใช้ยาแรง คือการไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

การที่ราคาทองคำปรับตัวแรงรอบนี้ สร้างมุมมองเชิงบวกเพิ่มขึ้น แนะนำหาจังหวะเปิดสถานะซื้อ บริเวณแนวรับ 1,986 -1,967ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,949 ดอลลาร์ต่อออนซ์)

เมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้นจะมี แนวต้านบริเวณ 2,009-2,021 ดอลลาร์ต่อออนซ์  หากไม่ผ่านแนะนำแบ่งปิดสถานะซื้อเพื่อทำกำไร หากผ่านได้ ลุ้นราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อทดสอบแนวต้านถัดไปโซน 2,039 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ส่วนราคาทองในประเทศ มองกรอบแนวต้าน 32,400-32,650 บาท  หากผ่านไปได้มองแนวต้านถัดไปที่ 32,950 บาท ส่วนกรอบแนวรับ 31,100-31,800 บาท และแนวรับลงมา31,500 บาท