กูรูฟันธง ‘ดอลลาร์’ ส่ออ่อนค่าลงอีก 15% เหตุสัญญาณเงินเฟ้อผ่อนคลาย

กูรูฟันธง ‘ดอลลาร์’ ส่ออ่อนค่าลงอีก 15% เหตุสัญญาณเงินเฟ้อผ่อนคลาย

นักวิจัยจาก “Eurizon SLJ Capital Ltd” ประเมินสกุลเงินดอลลาร์มีแนวโน้มย่อตัวลงอีก 15% ในอีกหนึ่งปีครึ่ง เหตุเงินเฟ้อปรับตัวดีขึ้นส่งผลให้เฟดผ่อนปรนนโยบายทางการเงิน

สตีเฟน เจน (Stephen Jen) และโจอานา ไฟรร์ (Joana Freire) นักเศรษฐศาสตร์จาก “Eurizon SLJ Capital Ltd” บริษัทบริหารสินทรัพย์สัญชาติอังกฤษ  กล่าวผ่านบันทึกในงานวิจัยเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาว่า ค่าเงินดอลลาร์มีความเสี่ยงย่อตัวลงจากเดิม 10% เป็น 15% ในอีก 1 ปีกับ 6 เดือนเนื่องจากสถานการณ์เงินเฟ้อผ่อนคลายส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง

กูรูฟันธง ‘ดอลลาร์’ ส่ออ่อนค่าลงอีก 15% เหตุสัญญาณเงินเฟ้อผ่อนคลาย

ทั้งสองกล่าวเพิ่มเติมในบันทึกว่า มีความเป็นไปได้ที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายปัจจุบันของเฟดจะเป็นจุดสูงสุดแล้ว ดังนั้นก้าวต่อไปอาจเป็นการ “ลดต้นทุนการกู้ยืม” (Lower Borrowing Costs) หรือการลดอัตราดอกเบี้ยลง

“จากนโยบายการเงินแบบตึงตัวของเฟดที่เริ่มจะเข้าที่เข้าทางแล้ว ทำให้นักวิเคราะห์ทั่วโลกค่อนข้างเชื่อว่าเงินเฟ้อก็อาจจะเริ่มย่อตัวลงไปด้วย รวมทั้งระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญซึ่งปรับตัวลงไปส่วนหนึ่งแล้วก็เป็นปัจจัยป้องกันไม่ให้อุปสงค์โลก (Global Demand) ล่มสลาย”

โดยดัชนีเงินดอลลาร์ของบลูมเบิร์กย่อตัวลง 0.5% นับตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา และปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4  หลังจากข้อมูลบ่งชี้ว่ากิจกรรมเศรษฐกิจในภาคอุตสาหกรรมสหรัฐฯ อ่อนแอกว่าคาด รวมทั้งอัตราการว่างงานลดลง 

ทั้งนี้ จากการวิจัยข้างต้น เจน อ้างอิงการคาดการณ์ผ่านการประเมินว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ จะชะลอตัวในอัตราเดียวกับที่เพิ่มขึ้นในปี 2564 และครึ่งแรกของปี 2565 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ราคาผู้บริโภค (Consumer Prices) เพิ่มขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่ทศวรรษ 1980

สอดคล้องกับบทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์กชี้ว่าสกุลเงินดอลลาร์อยู่ในแนวโน้มขาลงแล้ว โดยมาตรวัดค่าเงินดอลลาร์ของบลูมเบิร์กชี้ให้เห็นว่าค่าเงินดังกล่าวลดลง 10% จากระดับสูงสุดของปีที่แล้วในเดือน ก.ย.