“ฉัตรชัย ศิริไล”เอ็มดี ธ.ก.ส.คนใหม่ลุยปั้นแอปพลิเคชันช่วยการตลาดเกษตรกร

นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ตนมีนโยบายที่จะเพิ่มบทบาทของธนาคารให้เข้าไปมีส่วนช่วยเหลือในการทำการตลาดให้กับเกษตรกรมากขึ้น ซึ่งในเร็วๆ นี้ จะมีการจัดทำแอปพลิเคชันของธนาคาร เพื่อทำหน้าที่เชื่อมโยงการนำสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพดีมาจำหน่ายตรงให้ถึงมือผู้บริโภค เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกร และประชาชนมีโอกาสบริโภคสินค้าที่มีคุณภาพมากขึ้นด้วย

เขากล่าวว่า ที่ผ่านมาเรามักได้ยินคำว่าสินค้าคุณภาพดี มีไว้สำหรับส่งออก แต่คนไทยไม่ได้บริโภค ดังนั้นธ.ก.ส.จึงตั้งใจว่าจะนำสินค้ากลุ่มนี้เข้ามาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคด้วย และอาจจำหน่ายเป็นรายชิ้นไม่ได้จำหน่ายเป็นกิโลกรัมเหมือนที่ผ่านมา ยกตัวอย่าง เช่น กุ้งตัวใหญ่อาจจะจำหน่ายเป็นกิโลกรัม โดยวิธีนี้จะช่วยให้แก้ปัญหาราคาตกต่ำ และเกษตรกรมีรายได้เพิ่มซึ่งสุดท้ายส่งผลดีต่อธนาคาร ทำให้ลูกค้ามีความเข้มแข็ง

ทั้งนี้ เขากล่าวหลังตรวจเยี่ยมเกษตรกรลูกค้าผู้ปลูกสวนดอกดาวเรือง ที่อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี วันนี้ 

ด้านนายปรีชา เล็นวารีย์ เจ้าของสวนดอกดาวเรือง อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี เปิดเผยสถานการณ์จำหน่ายดอกดาวเรืองในช่วงที่กำลังมีการหาเสียงเลือกตั้งว่า ขณะนี้ตลาดมีความต้องการสูงโดยตัดไปจำหน่ายเท่าไรก็ขายได้หมด แต่ก็ประสบปัญหาตัดดอกไปขายไม่ทัน เนื่องจากขาดแรงงาน โดยปัจจุบันราคาดอกดาวเรืองราคาเฉลี่ยดอกละ 70 สตางค์ แต่ถ้าเป็นขนาดจัมโบ้ขายได้ถึงดอกละ 1 บาท ซึ่งราคาดีขึ้นกว่าช่วงก่อน

“การปลูกดาวเรือง สร้างรายได้ดีโดยก่อนหน้านี้ได้ปลูกผักสวนครัวแต่พอมาเปลี่ยนปลูกดอกดาวเรืองตั้งแต่ช่วงปี 61 มีต้นทุนการปลูกเฉลี่ยไร่ละ 10,000 - 15,000 บาท แต่มีรายได้กลับมาไร่ละถึง70,000 - 80,000 บาท”

อย่างไรก็ตาม การปลูกดาวเรือง 1 รอบตัดได้ประมาณหนึ่งเดือน แต่จะต้องพักแปลงปลูก 1 ปีเพื่อสลับไปปลูกพืชอื่น โดยระยะเวลาการปลูกประมาณ 50 วัน ถึงจะเก็บดอกดาวเรืองได้ โดยการตัดดอกจะได้เฉลี่ย 5,000 ดอกต่อวัน และเฉลี่ย 10 ดอกต่อต้นต่อวันมีรายได้เฉลี่ยวันละ 2,500 บาท โดยในช่วงปกติราคาจะเฉลี่ยตั้งแต่ 30 สตางค์ถึง 1 บาท แต่ช่วงที่ตลาดมีความต้องการสูงราคาอาจขยับไปถึงดอกละ 1.30 บาท

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์