'กองทุน’แนะเพิ่มน้ำหนักหุ้นจีน รับอานิสงส์ศก.ฟื้น -ผ่อนคุมเข้มอสังหาฯ

หลังจากสื่อนอกประโคมข่าวอีกครั้งเมื่อช่วงต้นเดือนเม.ย.ที่ผ่านมานี้ ถึง “ปัญหาอสังหาริมทรัพย์”ในประเทศจีน ผลพวงจากวิกฤติสภาพคล่องของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แต่สำหรับผู้จัดการกองทุนไทยยังคงมีมุมมองบวกต่อการ “ลงทุนหุ้นจีน” ในปีนี้ 

นายวจนะ วงศ์ศุภสวัสดิ์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวางแผนกลยุทธ์ บลจ.กสิกรไทย มองว่า สถานการณ์ความไม่แน่นอนในภาคอสังหาฯของจีน คาดการณ์ว่าได้ผ่านพ้นจุดต่ำสุดไปแล้ว โดยเริ่มเห็นรัฐบาลจีนผ่อนคลายมาตรการที่เข้มงวด รวมถึงมีมาตรการช่วยเหลือต่างๆ 

ทั้งนี้ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ไปมากพอสมควร แต่สิ่งที่นักลงทุนจะให้ความสำคัญในระยะถัดไป คือการบริโภคภายในประเทศ ที่จะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักให้กับเศรษฐกิจจีนในปีนี้
   

สำหรับปีนี้คาดว่าตลาดหุ้นจีนจะกลับมาน่าสนใจลงทุน หลังจากที่ได้ผ่านมรสุมต่างๆ ที่เข้ามากดดันในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งจะเห็นได้จากปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญ ได้แก่ 1. เศรษฐกิจจีนเป็นภาพของการฟื้นตัวชัดเจน ดัชนีชี้วัดต่างๆมีพัฒนา การที่ดีขึ้นเรื่อยๆ เช่น PMI ภาคการผลิตและบริการ ยอดค้าปลีก 2. เป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่หนึ่งเดียวที่ไม่มีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

3. มีสัญญาณเชิงบวกว่าทางการจีนได้สิ้นสุดมาตรการคุมเข้มในกลุ่มธุรกิจเทคฯ และอสังหาฯแล้ว 4. คาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตโดดเด่นมากกว่า 10% ในปีนี้ 5. ทางการจีนมั่นใจ GDP โต 5% ในปีนี้  ขณะที่ IMF คาดจะขยายตัวได้ถึง 5.2 %

โดยหุ้นจีนน่าสนใจลงทุน ได้แก่  หุ้นกลุ่มอุปโภคบริโภค และการเงิน จะได้รับประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงนโยบายที่จะมุ่งเน้นด้านการบริโภค และเงินออมของชาวจีนที่สูงเป็นประวัติการณ์ 

นอกจากนั้นกลุ่ม New Economy ที่ได้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้าง เช่น การคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาประเทศในระยะยาว เช่น พลังงานสะอาด การพัฒนาเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ หรือการคิดค้นนวัตกรรมด้านการแพทย์

โดย แนะนำการลงทุนหุ้นจีนหลังจากนี้ ซึ่งนักลงทุนที่ยังไม่ได้ลงทุนหุ้นจีน สามารถเข้าลงทุนได้ ขณะที่นักลงทุนที่ลงทุนตลาดหุ้นจีนอยู่แล้ว สามารถลงทุนเพิ่มได้ แต่เพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นจีน ไม่เกิน 20-25% ของพอร์ตหุ้น โดยขึ้นอยู่กับความสามารถในการรับความเสี่ยงของนักลงทุนแต่ละบุคคล 

นายศิระ คล่องวิชา ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่มการลงทุน บลจ.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดยังคลายกังวลในกลุ่มอสังหาฯ มากขึ้น หลังจากจีนเปิดประเทศ เป็นอัปไซด์ที่ดีต่อเศรษฐกิจจีนปีนี้กลับมาเติบโตได้ดีหนุนดีมานด์ในภาคอสังหาฯได้ ด้านปัจจัยเสี่ยงจากปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างจีนกับสหรัฐคาดยังคงกดดันเช่นนี้ไปอีกนาน

โดยมองว่า หุ้นจีนในปีนี้ ยังน่าสนใจลงทุนในกลุ่มหุ้นเติบโต เป็นบริษัทขนาดใหญ่เช่นกลุ่มเทคโนโลยี และการพัฒนานวัตกรรมเกี่ยวข้องกับธุรกิจพลังงานสะอาดและเฮลท์แคร์ ซึ่งนักลงทุนที่ยังรับความเสี่ยงเพิ่มได้ แนะทยอยสะสม หรือเพิ่มการลงทุนหุ้นจีนในจังหวะตลาดย่อตัวสัดส่วนไม่เกิน 10% ของพอร์ตหุ้นต่างประเทศ 60% จากพอร์ตหุ้น 50% ของพอร์ตลงทุนรวม ซึ่งมีโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะกลางถึงยาว

นางสาวดารบุษป์ ปภาพจน์ กรรมการผู้จัดการ บลจ. อีสท์สปริง(ประเทศไทย) กล่าวว่า  ในช่วงไตรมาส 1 ปีนี้ ตลาดหุ้นจีนกลับมาสร้างผลตอบแทนที่ค่อนข้างโดดเด่น โดย CSI300 บวก 4.63% จากปีที่ผ่านมาผลตอบแทนค่อนข้างน่าผิดหวัง ซึ่งแนวโน้มภาพรวมในไตรมาส2 นี้ ตลาดหุ้นจีน ยังเป็นธีมการลงทุนที่น่าสนใจ ซึ่งช่วงต้นเดือนเม.ย. CSI300 ยังบวก 5.69% 

ทั้งนี้เป็นผลจากภาพรวมของประเทศจีนและภูมิภาคอย่างเอเชียอาจได้รับประโยชน์จากพัฒนาการเศรษฐกิจของจีนที่ดีขึ้นเรื่อยๆรวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง 

สำหรับหุ้นจีน แนะเลือกลงทุนกลุ่มอุตสาหกรรมที่เรายังชอบต่อเนื่องและได้รับประโยชน์จากอัตราผลตอบแทน (Yield) ที่ลดลง คือ กลุ่มเทคฯ และกลุ่มเติบโต  ในส่วนของตราสารหนี้จีน แนะลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศภาครัฐฯและเอกชนในระดับInvestment Grade (IG)