‘รีทไทย’ยิลด์โตเด่น5.5% กองทุนแนะทยอยสะสม
"บลจ.ไทยพาณิชย์ เผยส่วนต่างผลตองแทนรีทไทยเทียบกับบอนด์ไทย 10 ปี ยังให้ผลตอบแทนดี 5.5 % และมีโอกาสปรับขึ้นในอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์เศรษฐกิจฟื้นตัว ทยอยสะสมไตรมาส 2 และดัชนีหุ้นไทยระดับ 1,500 จุด สะสมหุ้นรีท “บลจ.กรุงไทย” แนะกระจายลงทุน รีทโครงสร้างพื้นฐาน
“กองรีท” แนวโน้มลงทุนหลังโควิด-เศรษฐกิจ ส่งสัญญาณฟื้น ขณะที่การเปลี่ยนแปลงของผลตอบแทนพันธบัตร ( Bond Yield) โดยเฉพาะในกรณีของไทยเริ่มมีจำกัดแล้ว จึงทำให้มูลค่าของรีทในไทยและสิงคโปร์น่าจะถูกกำหนดด้วยอัตราการเช่าและค่าเช่าที่ฟื้นตัวเป็นหลัก และยังเป็นบวกต่อผลตอบแทนกองรีทไทยมีแนวโน้มปรับขึ้นได้ จากปัจจุบันส่วนต่างผลตอบแทนกองรีทไทยเทียบกับพันธบัตรไทย 10 ปี ให้ผลตอบแทน อยู่ที่ 5.5% ถือเป็นสินทรัพย์ทางเลือกการลงทุนที่ดี
พร้อมกันนี้ด้ชนีรีทในไทยและสิงคโปร์มีเงินปันผลตอบแทนอัตราสูงอยู่ในอันดับต้น ๆของกลุ่มรีททั่วโลก ในขณะที่มีความผันผวนต่ำกว่า ดังนั้น ผู้จัดการกองทุน จึงแนะนำนักลงทุนให้ทยอยสะสมในช่วงไตรมาส 2 นี้
นางสาวนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บลจ.ไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่าแนวโน้มการลงทุน ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) ในฝั่งเอเชีย ( Asian REITs) โดยเฉพาะในไทย มีความน่าสนใจ รับปัจจัยหนุนจากการเปิดเมืองเปิดประเทศของจีนและอาเซียน ที่ส่งผลบวกต่ออัตราการเช่าและค่าเช่า ในอนาคตของ REITs ทั้งในกลุ่มโรงแรม และพื้นที่เชิงพาณิชย์ โดยเฉพาะในไทยและสิงคโปร์ที่กิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการพึ่งพาเศรษฐกิจจีนค่อนข้างมาก
เรายังมีมุมมองการลงทุนเป็นกลาง (Neutral)หรือ ถือได้ สำหรับกองทุนรีททั้งไทยและต่างประเทศ และปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนมากขึ้นในรีทไทย หากการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดรอบเดือนพ.ค.นี้ มีทิศทางชัดเจนตามที่ตลาดคาดและเศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวต่อเนื่อง จากปัจจุบันกองทุน เปิดไทยพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล ( SCBPINA ) มีสัดส่วนลงทุนในรีทไทย และต่างประเทศ สัดส่วนเท่ากันที่ 50:50
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนรีทไทย ต้องเลือกเซ็กเตอร์ที่ยังมีส่วนต่างผลตอบแทนที่ระดับ 5.5% เมื่อเทียบกับบอนด์อายุ 10ปี ราคาหุ้นต่ำกว่า 1 เท่าและมีโอกาสฟื้นตัวขึ้นต่อเนื่อง เป็นสินทรัพย์ที่มีคุณภาพและรายได้มีโอกาสปรับขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
แนะนำ 2 ธีมรีทไทย น่าสนใจ คือ 1. ธีมสร้างรายได้สม่ำเสมอ คือ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐานและโทรคมนาคม ที่ให้ผลตอบแทนสม่ำเสมอ จากสัญญาเช่าระยะยาว และมีความผันผวนต่ำ
และ 2.ธีมเปิดประเทศ คือ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม ที่ได้ประโยชน์จากการย้านฐานการผลิตจากจีนมาไทย และกลุ่มศูนย์การค้าพื้นที่เช่าพาณิชย์ และโรงแรม ที่ได้ประโยชน์การกลับมาของธุรกิจค้าปลีกที่ส่วนลดค่าเช่าค่อยๆ ทยอยหมดลงหลังโควิด และการกลับมาท่องเที่ยวในไทยของนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
ในส่วนรีทต่างประเทศ แนะวิเคราะห์จากปัจจัยมหภาค และคุณภาพของแต่ละสินทรัพย์ในแต่ละประเทศ และแต่อุตสาหกรรม โดยมีการประเมินทั้งในส่วน Valuation รวมถึงอัตราเงินปันผลด้วย
นอกจากนี้ เมื่อดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลงที่บริเวณ 1,500 จุด ยังมองว่าเป็นโอกาสทยอยสะสมหุ้นกลุ่มรีทที่ราคายังไม่ปรับขึ้นมากและผลการดำเนินงานมีโอกาสเติบโตตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย เพื่อรับเงินปันผลเพิ่มเติม
นางชวิดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย กล่าวว่า การลงทุนในรีทไทย ยังมีความน่าสนใจมากกว่ารีทต่างประเทศ จากการขึ้นดอกเบี้ยกดดันกลุ่มรีทลดลง และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังโควิด สามารถสร้างผลตอบแทนกลับมาในรูปแบบของเงินปันผลกลับมาอย่างสม่ำเสมอ และมีความผันผวนต่ำในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน ยังแนะนำว่าควรมีติดพอร์ตโดยสัดส่วนพอร์ตลงทุนแนะนำ (ความเสี่ยงปานกลาง) สัดส่วน สินทรัพย์ทางเลือก 10% ของพอร์ตลงทุน
“ที่สำคัญคือ ควรใช้หลักกระจายการลงทุน เพื่อลดความเสี่ยงจากการขาดทุนในสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งเพียงสินทรัพย์เดียว และเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนในทุกสภาวะตลาด
