สรรพากรเผยยอดขอคืนแวตท่องเที่ยวพุ่งรับเปิดประเทศ

สรรพากรเผยยอดขอคืนแวตท่องเที่ยวพุ่งรับเปิดประเทศ

สรรพากรเร่งคืนแวตรับท่องเที่ยวฟื้น เผยยอดขอคืนภาษีจากนักท่องเที่ยวพุ่งอย่างมีนัยสำคัญหลังรัฐบาลเปิดประเทศ ปี 65 ยอดคืนกว่า 4.23 แสนราย เป็นเงินราว 1.2 พันล้าน ล่าสุด 3 เดือนแรกของปีนี้ ยอดคืนกว่า 2.73 แสนราย เป็นเงินกว่า 700 ล้านบาท

นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากรเปิดเผยว่า ในช่วงที่รัฐบาลเปิดประเทศได้มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวไทยเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญสะท้อนจากยอดเงินคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม(แวต)ที่เพิ่มขึ้นมาก โดยในปี 2565 กรมฯได้คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยวไปแล้วจํานวน กว่า 4.23 แสนราย เป็นจํานวนเงินทั้งสิ้นราว 1.2 พันล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบก่อนและหลังมาตรการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2565 จะพบว่า ในเดือนม.ค.ถึง พ.ค.2565 มียอดคืนจำนวน 5.57 หมื่นราย เป็นเงินกว่า 204 ล้านบาท แต่เมื่อเปิดประเทศเต็มรูปแบบพบว่า ยอดเงินขอคืนแวตดังกล่าวตั้งแต่เดือนมิ.ย.ถึง ธ.ค.2565 มียอดคืนเพิ่มขึ้นเป็นกว่า3.67 แสนราย เป็นเงินเกือบ 1 พันล้านบาท

สําหรับปี 2566 นี้ แนวโน้มการท่องเที่ยวได้ฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งกรมฯประเมินยอดการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มก็จะปรับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย โดยในช่วงม.ค.ถึง มี.ค.2566 กรมฯได้คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยวไปแล้วจํานวนกว่า 2.73 แสนราย เป็นเงินกว่า 700 ล้านบาท

ทั้งนี้ ในส่วนของการคืนภาษีดังกล่าว กรมฯได้กำหนด 3 ขั้นตอนง่าย ๆ ในการขอคืนภาษีแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ โดยขั้นที่ 1 คือ การซื้อสินค้า ให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้าจากร้านค้าที่แสดงสัญลักษณ์ "VAT REFUND FOR TOURISTS" ไม่น้อยกว่า 2 พันบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ต่อรายและต่อร้านค้าในวันเดียวกัน จากนั้น แจ้งให้ร้านค้าจัดทำคำร้องขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.10) ในวันที่ซื้อสินค้า พร้อมแสดงหนังสือเดินทางเล่มที่ใช้เดินทางเข้าออกราชอาณาจักรเพื่อให้ร้านค้าระบุเลขที่หนังสือเดินทางลงในใบกำกับภาษี

ขั้นที่ 2 พิธีการศุลกากร ให้นำสินค้าที่ซื้อไปแสดง ณ สำนักงานศุลกากร กรณีซื้อสินค้ารวมกันทั้งหมดตั้งแต่ 5 พันบาทขึ้นไป ต้องนำสินค้าและคำร้องฯ ภ.พ.10 พร้อมใบกำกับภาษี เพื่อให้เจ้าพนักงานศุลกากรตรวจรับรอง ในวันที่เดินทางออกนอกราชอาณาจักร

กรณีซื้อสินค้า luxury 10 ประเภท ต้องแสดงสินค้าต่อเจ้าพนักงานสรรพากรด้วย (หลังจากพิธีตรวจคนเข้าเมือง) สินค้า luxury 10 ประเภท ได้แก่ อัญมณีที่ประกอบขึ้นเป็นตัวเรือน หรือของรูปพรรณ ทองรูปพรรณ นาฬิกา แว่นตา ปากกา โทรศัพท์แบบพกพาหรือสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์แบบพกพา กระเป๋าถือ(ไม่รวมถึงกระเป๋าเดินทาง) เข็มขัด ที่มีมูลค่าการซื้อสินค้าแต่ละชิ้นตั้งแต่ 1 หมื่นบาทขึ้นไป หรือสินค้าที่สามารถนำติดตัวไปพร้อมกับการเดินทางที่มีมูลค่าการซื้อสินค้าต่อชิ้นตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป 

ขั้นที่ 3 การขอคืน นักท่องเที่ยวสามารถขอคืนภาษีได้หลายช่องทาง ดังนี้ 1. เคาน์เตอร์คืนภาษี ณ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศ 10 ท่าอากาศยานขอคืนภาษีไม่เกิน 3หมื่นบาท อนุมัติคืนภาษีทันทีในรูปแบบเงินสด (บาท) หรือรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็น Alipay WeChat บัตรเครดิต หรือบัตรเดบิต กรณีขอคืนเงินเกิน 3 หมื่นบาท คืนภาษีผ่านบัตรเครดิต (ภายใน 34 วัน)

2. ส่งคำร้องฯ ภ.พ. 10 ทางไปรษณีย์ คืนภาษีผ่านบัตรเครดิต 3. ขอคืนภาษีผ่านตัวแทนคืนภาษีในเมืองซึ่งเปิดให้บริการ ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ 4. ตั้งแต่มกราคม 2563 ได้มีการเปลี่ยนเป็นระบบการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่นักท่องเที่ยวแบบอิเล็กทรอนิกส์บนเทคโนโลยี Blockchain มีร้านค้าหลายร้านที่จัดทำคำร้องฯ แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-P.P.10) แทนแบบกระดาษ นักท่องเที่ยวที่ซื้อสินค้าจากร้านค้าที่จัดทำคำร้องฯ e-P.P.10 สามารถทำรายการคืนภาษีได้ด้วยตนเองผ่าน Thailand VRT application โดยจะได้รับคืนเงินในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็น Alipay WeChat หรือบัตรเครดิต