ศุลกากรจับยาอียัดกระป๋องกาแฟกว่า2.7กิโลกรัม มาทางพัสดุไปรษณีย์
กรมศุลกากรตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาอี ใส่มาในกระป๋องกาแฟปะปนมากับขนมชนิดต่างๆ ส่งทางพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศ ต้นทางจากประเทศฝรั่งเศสจำนวนเกือบ 6 พันเม็ด น้ำหนักกว่า 2.7 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 3.5 ล้านบาท
นายพันธ์ทอง ลอยกุลนันท์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า กรมศุลกากรมีการเฝ้าระวังการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในราชอาณาจักร ทั้งทางบก ทางเรือและทางอากาศ โดยเฉพาะทางพัสดุไปรษณีย์ที่มักมีการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ในวันนี้ (16 มิถุนายน 2566) เวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากร พบพัสดุไปรษณีย์ระหว่างประเทศประเภทพัสดุไปรษณีย์ทางอากาศ ต้นทางจากประเทศฝรั่งเศส จำนวน 1 หีบห่อ มีลักษณะที่น่าสงสัย เปิดตรวจพัสดุดังกล่าวร่วมกับพนักงาน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ภายในพบกระป๋องผลิตภัณฑ์กาแฟจำนวน 4 กระป๋อง ปะปนมากับขนมชนิดต่างๆ จากการตรวจสอบทางกายภาพพบความผิดปกติที่ขอบฝากระป๋องผลิตภัณฑ์กาแฟ
จึงนำไปตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์ และพบว่าภาพของผลเอกซเรย์ดังกล่าวมีความผิดปกติ เจ้าหน้าที่จึงร่วมกันเปิดฝากระป๋องผลิตภัณฑ์กาแฟ ทั้ง 4 กระป๋อง ภายในตรวจพบเม็ดยาสีเทาและสีม่วง เจ้าหน้าที่จึงนำตัวอย่างดังกล่าวไปทดสอบด้วยน้ำยามาร์ควิส พบว่าทำปฏิกิริยากับน้ำยาทดสอบเปลี่ยนจากใสเป็นสีเทาและสีดำ
ในเวลาต่อมา และทดสอบด้วยเครื่อง PROGENY RESQ แสดงผลเป็น MDMA จึงสันนิษฐานได้ว่าเม็ดยาดังกล่าว เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาอี (ECSTASY) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 2,723 กรัม มูลค่ากว่า 3.5 ล้านบาท
กรณีเป็นการนำของต้องห้ามเข้ามาในราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 244 และมาตรา 252 ประกอบมาตรา 60 และมาตรา 61 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 และเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 โดยได้นำของกลางส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป