ยอดขาย ‘TESLA - BYD’ พุ่งทำ ‘เรคคอร์ดไฮน์’ จากดีมานด์อีวีเพิ่มสูงขึ้น
ยอดของรถอีวีบริษัท TESLA จากสหรัฐ และ BYD จากจีน ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากความต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าปรับตัวสูงขึ้น
Key Points
- บริษัทเทสลา มอเตอร์ และบริษัท บีวายดี ทำสถิติยอดขายสูงที่สุดในไตรมาส 2 จากดีมานด์อีวีพุ่ง
- ในไตรมาส 2 เทสลาส่งมอบรถยนต์ 466,140 คันทั่วโลก ซึ่งสูงกว่าการประมาณการของวอลล์ สตรีท
- ด้านบีวายดี ก็ทำยอดขาย รถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริดที่ดีที่สุดในไตรมาส 2 ที่ 700,244 คัน
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า บริษัทเทสลา มอเตอร์ (Teala Motor) และบริษัทบีวายดี (BYD) ทำสถิติยอดขายสูงที่สุดในไตรมาส 2 จาก ความต้องการซื้อ (Demand) รถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ทั้ง 2 บริษัทครองตำแหน่ง “ผู้นำตลาดรถยนต์อีวี” อย่างแข็งแกร่ง
โดยในไตรมาสที่ 2 บริษัทเทสลาของมหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ (Elon Musk) ส่งมอบรถยนต์ 466,140 คันทั่วโลก ซึ่งสูงกว่าการประมาณการของวอลล์ สตรีท (Wall Street) อย่างมาก ขณะที่บีวายดี แบรนด์รถยนต์ชั้นนําของจีนก็ทำยอดขายที่ดีที่สุดในไตรมาสนี้เช่นเดียวกัน โดย ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า และรถยนต์แบบปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Vehicles) อยู่ที่ 700,244 คัน
ทั้งนี้ หุ้นของเทสลาเพิ่มขึ้นมากถึง 6.9% หลังเปิดตลาดหุ้นนิวยอร์ก ขณะที่บีวายดีปิดตลาดในฮ่องกงเพิ่มขึ้น 4.5% สอดคล้องกับหุ้นบริษัทริเวียน ออโตโมทีฟ (Rivian Automotive) แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากอเมริกาก็ปรับตัวขึ้นเช่นกันหลังจากสามารถส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าได้ดีเกินคาด
ทั้งนี้ มัสก์ ให้คํามั่นว่า จะผลักดันยอดส่งรถยนต์เพิ่มมากขึ้น แม้จะต้องแลกกับความสามารถในการทํากําไรที่ลดลง ซึ่งสร้างแรงกดดันให้กับผู้ผลิตรถยนต์รุ่นเก่าที่พยายามดิ้นรนเพื่อตามเทรนด์รถยนต์ไฟฟ้าให้ทัน โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โฟล์คสวาเกน (Volkswagen) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนใหม่สําหรับแบรนด์อาวดี้ (Audi) ซึ่งยอดขายโดยรวมในยอดขายไตรมาสแรกลดน้อยลงตามหลังเทสลา
ขณะที่ นักวิเคราะห์ที่จากบลูมเบิร์ก คาดว่า เทสลาจะส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าได้ 448,350 คันในช่วงสามเดือนที่ผ่านมา
"เป็นความเคลื่อนไหวที่ยิ่งใหญ่" เบน คัลโล (Ben Kallo) นักวิเคราะห์ของโรเบิร์ต ดับเบิลยู แบร์ด (Robert W. Baird) กล่าวทางโทรศัพท์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา พร้อมเสริมว่า
"ประชาชนยังคงเฝ้ารอการลดราคาอีกรอบ และตัวเลขการจัดส่งจํานวนมากนี้ทําให้ความเสี่ยงของบริษัทลดน้อยลง"
"หลายฝ่ายกังวลประเด็นเรื่องรถค้างสต็อก และดูเหมือนว่าเทสลาจะมองว่าประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องปกติไปแล้ว" คัลโลกล่าว พร้อมเสริมว่า
"ส่วนต่างระหว่างการผลิตและการส่งมอบอยู่ในช่วงหดตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่มัสก์มุ่งมั่นที่จะทำให้สำเร็จ"
การกระตุ้นจากเทสลา
นอกเหนือจากการลดราคาใน กลุ่มผลิตภัณฑ์ของเทสลา แล้ว มัสก์ ยังเสนอสิทธิพิเศษต่างๆ เช่น การฟาสต์ชาร์จฟรี 3 เดือนในสหรัฐอเมริกา และเงินอุดหนุนที่เกี่ยวข้องกับการประกันภัยในจีนเพื่อกระตุ้นยอดขาย ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนประเมินว่า เทสลาจะยังลดราคารถยนต์ไปถึงช่วงปีหน้า
โดยแม้ว่าเทสลายังคงเป็นผู้ผลิตรถอีวีอันดับต้นในสหรัฐ ทว่าก็กําลังเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงทั่วโลกจากปริมาณผู้เล่นหน้าใหม่ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยโมเดลรถคันใหม่ล่าสุดของเทสลาคือ “โมเดล วาย” (Model Y) ซึ่งเปิดตัวในปี 2563
อย่างไรก็ดี ยอดขายของเทสลาหลังจากปิดไตรมาสในจีนย่อตัวลงตามหลัง แบรนด์เจ้าถิ่นอย่างบีวายดีโดยจีนถือเป็นตลาดรถอีวีอันดับ 2 รองจากสหรัฐ หลังจากนั้นเทสลาจึงลดราคารุ่นพรีเมียมในประเทศจีนลงมากกว่า 4.5% เพื่อต่อสู้ด้านราคา
“บีวายดี” แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับตา
ด้านยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าแบบเต็มรูปแบบของบีวายดีตามหลังยอดขายดังกล่าวของเทสลามาแบบติดๆ คือ คิดเป็นเกือบสองเท่าอยู่ที่ 352,163 คันในไตรมาสที่สอง ขณะที่ ยอดขายรวมของบีวายดี เพิ่มขึ้น 98% จากปีที่แล้ว และในเดือนมิ.ย. บริษัท ขายรถยนต์อีวีได้ 251,685 คัน ซึ่งมากที่สุดเป็นประวัติการณ์
ด้าน หลี่ ออโต้ (Li Auto) ซึ่งเป็นบริษัทขนาดเล็กของจีนทําสถิติสูงสุดใหม่ต่อเดือนที่ 32,575 ครั้ง ในขณะที่ยอดขายของแบรนด์คู่แข่งอย่าง บริษัท เสี่ยวเผิง (Xpeng Inc.) และ นีโอ (Nio Inc.) เพิ่มขึ้นเล็กน้อย และไอออน (Aion) แบรนด์อีวีจาก ของกว่างโจว โอโตโมทีฟ กรุ๊ป (Guangzhou Automotive Group Co.) โดดเด่นด้วยยอดขายที่แข็งแกร่งอีกในเดือนมิ.ย.โดยมีการจัดส่ง 45,013 คัน
ยอดขายเดือนมิ.ย. "แสดงให้เห็นว่า ความต้องการรถยนต์อีวียังคงแข็งแกร่ง" แม้ว่าเศรษฐกิจจีนจะหดตัว โจแอนนา เฉิน (Joanna Chen) นักวิเคราะห์รถยนต์ และแบตเตอรี่อีวีของ บลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ (Bloomberg Intelligence) กล่าว
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์