สหรัฐ จ่อคุมการลงทุนในจีน เฉพาะบริษัทที่มีรายได้ 50% จากกลุ่มเทคฯ เท่านั้น
แหล่งข่าววงในบลูมเบิร์ก ชี้ สหรัฐจ่อผ่อนคลายมาตรการแบนการลงทุนในจีน โดยระงับการลงทุนแค่บริษัทที่มีรายได้กว่า 50% จากกลุ่มเทคฯ เท่านั้น แม้ยังห้ามลงทุนเกี่ยวกับเทคโนโลยีการทหารอยู่ ด้านข้อมูลชี้ ปัจจุบันสหรัฐนำเข้าสินค้าจากจีนฮวบ 25%
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (9 ส.ค.) ว่า แผนการของสหรัฐ ที่จะจำกัดการลงทุนในจีนมีแนวโน้มที่จะนำไปใช้เฉพาะกับบริษัทจีนที่มีรายได้อย่างน้อยครึ่งหนึ่งมาจากภาคส่วนที่มีความล้ำหน้าทางเทคโนโลยี เช่น คอมพิวเตอร์ควอนตัมและปัญญาประดิษฐ์
ทั้งนี้ การจัดหารายได้จะจำกัดขอบเขตของคำสั่งผู้บริหารที่ฝ่ายบริหารของ โจ ไบเดน (Joe Biden) คาดว่าจะเปิดเผยในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันเพื่อจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีที่ละเอียดอ่อนจากจีน
กฎดังกล่าวจะอนุญาตให้บริษัทไพรเวทอิควิตี้และบริษัทร่วมทุนของสหรัฐ เข้าไปลงทุนในกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ของจีนที่อาจมีแผนกปัญญาประดิษฐ์ แต่รับรายได้ส่วนใหญ่จากแหล่งอื่น
โดยแหล่งข่าวคนดังกล่าวระบุว่า คำสั่งข้างต้นจะห้ามการลงทุนใน AI ที่เกี่ยวข้องกับการทหาร ในขณะที่ก็กำหนดให้มีการแจ้งรายละเอียดสำหรับการลงทุนในกิจกรรม AI อื่นๆ ซึ่งคาดว่าจะห้ามการลงทุนในกิจกรรมควอนตัมคอมพิวติ้ง (Quantam Computing) บางอย่าง เช่น การเข้ารหัสและการตรวจจับคีย์ รวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงบางประเภท
ขณะเดียวกัน บทวิเคราะห์ของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ระบุว่า ในภาพรวมสหรัฐ นำเข้าสินค้าจากจีนประมาณ 203,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 6 เดือนแรกของปี ซึ่งน้อยกว่าช่วงเดียวกันของปี 2565 ถึง 25% ตามข้อมูลที่ยังไม่ได้ปรับปรุงล่าสุดจากกระทรวงพาณิชย์ โดยตัวเลขดังกล่าวไม่ได้ถูกปรับตามอัตราเงินเฟ้อ โดยเม็กซิโกและแคนาดาได้เข้ามาแทนที่จีนในฐานะ “ผู้ค้า” อันดับต้น ๆ แก่สหรัฐ