สรรพสามิตเล็งแก้ภาษีบุหรี่เป็นอัตราเดียว

สรรพสามิตเล็งแก้ภาษีบุหรี่เป็นอัตราเดียว

สรรพสามิตเล็งแก้ภาษีบุหรี่เป็นอัตราเดียว เตรียมเจรจา สธ.ขอเพิ่มพิกัดบุหรี่ไฟฟ้า เพิ่มอำนาจกรมฯจับ-ปรับได้

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยความคืบหน้า การพิจารณาโครงสร้างภาษีบุหรี่ ว่า ขณะนี้ กรมฯได้หลักการใหม่ในการจัดเก็บภาษีสินค้าบุหรี่จาก องค์การอนามัยโลก ( WHO) โดยควรจัดเก็บตามปริมาณมวนมากขึ้น และควรจะปรับการจัดเก็บเป็นอัตราเดียว

ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมสรรพสามิต จัดเก็บภาษีแบบ 2 รูปแบบ คือ 

  • เก็บตามปริมาณหรือจำนวนมวนในอัตรา 1.25 บาทต่อมวน 
  • เก็บตามราคา ซึ่งเป็น 2 อัตรา คือ บุหรี่ราคาตั้งแต่ซองละ 72 บาทขึ้นไป จัดเก็บภาษีอัตรา42% และบุหรี่ราคาซองละต่ำกว่า 72 บาทจะเก็บภาษีอัตรา 25%

 

“การจัดเก็บแบบ 2 อัตราดังกล่าว ได้พบปัญหาคือ ผู้ผลิต และผู้นำเข้าก็ต่างลดราคาลงมาแข่งที่ภาษีอัตรา 25% และจากการศึกษาเบื้องต้นจึงคาดว่าภาษีราคามีอัตราเดียวดีกว่า และไปเพิ่มอัตราภาษีที่มวน”

สำหรับบุหรี่ไฟฟ้านั้น กรมฯอยู่ระหว่างคุยกับกระทรวงสาธารณสุขเพื่อขอจัดสินค้าดังกล่าวเข้ามาอยู่ในพิกัด ซึ่งทางสาธารณสุขกังวลว่า ถ้าอนุญาตให้กรมฯใส่บุหรี่ไฟฟ้าในพิกัดสินค้า ก็จะทำให้มีโอกาสที่บุหรี่ไฟฟ้าจะถูกผลักดันให้ถูกกฎหมาย แต่ขณะนี้ที่ไม่มีการใส่บุหรี่ไฟฟ้าในพิกัดนั้น ทำให้กรมสรรพสามิตไม่มีอำนาจในการจับ ยึด และปรับบุหรี่ไฟฟ้าได้

"ที่ผ่านมาพบว่า เมื่อสายปราบปรามเข้าจับกุมกลุ่มลักลอบขน หรือขายบุหรี่เถื่อนได้ ก็จะพบมีขายบุหรี่ไฟฟ้าด้วย แต่กรมฯทำอะไรกับบุหรี่ไฟฟ้าที่ตรวจเจอไม่ได้ เพราะไม่มีพิกัดราคา ก็ปรับไม่ได้ และต้องไปสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)มาดำเนินการต่อไป”นายเอกนิติ กล่าว

เขากล่าวด้วยว่า เมื่อภาษีทำให้บุหรี่ขึ้นราคาไป ซึ่งช่วยสังคมให้คนสูบลดลงได้ แต่ก็เกิดปัญหาออกไปข้างคือ ไปหาบุหรี่เถื่อน หรือบุหรี่ไฟฟ้าแทน ทำให้กรมสรรพสามิต ในส่วนของศูนย์การปราบปรามทำงานหนักขึ้น

“จากปัจจุบันที่มีการจัดเก็บภาษีบุหรี่รูปแบบ 2 อัตรา และมีการเพิ่มภาษีเยอะขึ้น แม้จะทำให้เห็นว่าคนไทยสูบบุหรี่น้อยลง แต่อีกสิ่งที่เกิดขึ้นคือการออกไปข้างๆ ได้แก่ ออกไปหาบุหรี่ไฟฟ้า ไหลไปหาบุหรี่เถื่อนซึ่งทำให้กรมต้องเน้นการปราบปรามมากขึ้น”

ทั้งนี้ กรมฯจึงจะยกระดับ Data Analytics หรือ การวิเคราะห์ข้อมูล ของศูนย์ปราบปราบสินค้าผิดกฎหมายออนไลน์ของสรรพสามิต โดยร่วมกับตำรวจสอบส่วนกลาง ซึ่งจะมีการลงนามข้อตกลงอย่างเป็นทางการ 31 สิงหาคมนี้  

นอกจากนี้ กรมฯยังได้ลงนามข้อตกลงร่วมกับ สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) เป็นองค์การมหาชน ในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เพื่อเพิ่มฐานข้อมูลการปรามปราบให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น  โดยใช้การปราบปรามบุหรี่ เป็น Sandbox ในการทดลองระบบระยะแรก 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาจากการพัฒนาศูนย์ปราบปราบสินค้าผิดกฎหมายออนไลน์ของสรรพสามิต ทำให้ภาพรวมการปราบปรามได้มากขึ้น 26% เมื่อกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยการศูนย์ปราบปราบออนไลน์ จับคดีน้ำมันเถื่อนได้มากที่สุด โดยช่วง 9 เดือนแรกของปี 66 (ต.ค.65- มิ.ย.66) มีคดีน้ำมันเถื่อน 1,135 คดี มูลค่าปรับ 23 ล้านบาท จากช่วง 9 เดือนของเมื่อปี 65 ที่ จับได้ 578 คดี มูลค่าปรับ 2 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นกว่า 500% ส่วนคดียาสูบมูลค่าปรับล่าสุดช่วงปี 66 ที่ 5.7 ล้านบาท เพิ่มจากปี 65 ที่มูลค่าปรับ 4.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น  20%