เช็กโผ! คลัง เตรียมขยับยกแผง “ลวรณ”ขึ้นปลัดฯ โยก "พชร” เข้ากรุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็น นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เมื่อวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุดคาดว่า นายเศรษฐา จะเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจเอง โดยการนั่งควบเก้าอี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อีกหนึ่งตำแหน่ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และฟื้นเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ในโผรัฐมนตรีนั้น มีชื่อ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ปลัดกระทรวงการคลัง ที่จะเกษียณอายุราชการ ในวันที่ 30 ก.ย.2566 ได้รับแต่งตั้งเป็น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังด้วย
 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประเด็นที่ต้องจับตาต่อไปคือ การปรับโครงสร้างผู้บริหารกระทรวงการคลัง ที่รอบนี้จะเป็นโยกย้ายผู้บริหารระดับ ซี 10 ทั้งแผง โดยตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง คาดว่า นายลวรณ แสงสนิท จะขยับจากอธิบดีกรมสรรพากร ขึ้นเป็นปลัดกระทรวงการคลัง แทน นายกฤษฎา โดยมี ดร.กุลยา ตันติเตมิท ที่จะโยกจากอธิบดีกรมบัญชีกลาง ไปเป็นอธิบดีกรมสรรพากรแทน

ขณะที่ตำแหน่งอธิบดีกรมบัญชีกลาง จะขยับนางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ มารับเก้าอี้นี้แทน

ส่วน ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ จะโยกจากอธิบดีกรมสรรพสามิต ไปเป็นอธิบดีกรมศุลกากร แทน นายพชร อนันตศิลป์ ที่จะถูกย้ายไปเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง และคาดว่าจะขยับ นายธีรัชย์ อัตนวานิช จากรองปลัดกระทรวงการคลัง มาเป็นอธิบดีกรมสรรพสามิต
 

นอกจากนี้กรมธนารักษ์ ที่นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ ที่จะเกษียณอายุราชการในปี 2567 คาดว่าจะถูกโยกเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง โดยจะโยกนายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) มารับตำแหน่งแทน  

โดยการปรับโครงสร้างผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงการคลัง ทั้งแผงในครั้งนี้ เพื่อความเหมาะสม และตอบโจทย์ภารกิจด้านการจัดหารายได้ การจัดการทรัพย์สิน และตอบยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจด้วย

ทั้งนี้กรมสรรพากรถือเป็นกรมใหญ่ที่สุดในกระทรวงการคลัง รับมอบเป้าหมายในการจัดเก็บภาษีในระดับ 75% ของประมาณการรายได้ของรัฐบาล ถัดมาจะเป็นกรมสรรพสามิตได้รับมอบหมายให้เก็บภาษีราว 20-25% ส่วนกรมศุลกากรราว 4%
 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์