หุ้น Apple ร่วง 2 วันติดเฉียด 7% มาร์เก็ตแคปวูบ 2 แสนล้านดอลล์ หลังจีนแบน iPhone
หุ้นบริษัท Apple Inc. ร่วงลงอีกเกือบ 3% รวม 2 วันทำการเป็น 6.4% เมื่อวานนี้ ทำให้มูลค่าตลาด หายไปเกือบ 2 แสนล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 2 วัน หลังทางการจีนห้ามใช้ IPhone ในองค์กรที่เชื่อมโยงกับภาครัฐ
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (8 ก.ย.) ว่า หุ้นบริษัท Apple Inc. ร่วงลงอีกเกือบ 3% เมื่อวานนี้ ทำให้มูลค่าตลาด (มาร์เก็ตแคป) หายไปเกือบ 2 แสนล้านดอลลาร์ในเวลาเพียง 2 วัน เนื่องจากจีนวางแผนที่จะขยายการห้ามใช้ iPhone ภายในหน่วยงานที่เชื่อมโยงกับภาครัฐ
โดยหุ้น Apple Inc. ลดลงรวม 6.4% ภายในเวลา 2 วันทำการ ซึ่งเป็นการลดลงที่มากที่สุดในรอบเดือน ซึ่งน้ำหนักของหุ้น Apple มีสัดส่วนมากที่สุดในดัชนีหุ้นสหรัฐหลายตัว ส่งผลให้ 1-2 วันที่ผ่านมามีแรงเทขายออกมาจำนวนมากเนื่องจากความกังวลจากจีน
ทั้งนี้ Apple เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในจีน ซึ่งเป็นตลาดต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุด แม้ว่าจะมีความไม่พอใจเกี่ยวกับความพยายามของอเมริกาในการจำกัดอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของประเทศในเอเชียเพิ่มขึ้นก็ตาม โดยโทรศัพท์มือถือไอโฟน ของ Apple เป็นหนึ่งในสินค้าขายดีในจีน และประชาชนจากทั้งภาครัฐและเอกชนก็ใช้อย่างเเพร่หลาย
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารัฐบาลจีนกีดกันอุปกรณ์และเทคโนโลยีจากต่างประเทศอย่างมาก เพราะมีความละเอียดอ่อนในประเด็นการเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่ปักกิ่งยกระดับความต้องการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากสหรัฐ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สำทับกับสงครามในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ของทั้ง 2 ประเทศ
หากย้อนกลับไปในปี 2565 ปักกิ่งสั่งให้หน่วยงานรัฐบาลกลางและบริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลแบรนด์ต่างประเทศไปเป็นอุปกรณ์ในประเทศภายใน 2 ปี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความพยายามเชิงรุกในการกำจัดเทคโนโลยีของต่างประเทศที่เข้ามาในจีน
ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่า
หากจีนสาามารถห้ามการใช้ไอโฟนภายในประเทศได้จริง อาจกระทบต่อรายได้ของบริษัทอย่างมาก เพราะรายได้จากจีนคิดเป็นกว่า 20% ของรายได้ทั้งหมดของ Apple