ยอดปล่อยกู้ ส.ค. จีน พุ่งสูงกว่าคาด เฉียด 15 ล้านล้านบาท กูรู ชี้ จีนอาจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
"ยอดปล่อยสินเชื่อ" เดือน ส.ค. ของจีนพุ่งสูงขึ้นกว่าคาดการณ์ที่ 3.12 ล้านล้านหยวน หรือ 4.29 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 14.157 ล้านล้านบาท) ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 2.7 ล้านล้านหยวน ด้านกูรูประเมิน เศรษฐกิจจีนอาจผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว
สำนักข่าวบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานวันนี้ (11 ก.ย.) ว่า ยอดปล่อยสินเชื่อของจีนขยายตัวเกินคาดในเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา หลังจากธนาคารกลางแห่งประเทศจีน (PBOC) กดดันให้บรรดาธนาคารเร่งปล่อยสินเชื่อและรัฐบาลขายพันธบัตรออกมาจำนวนหนึ่ง
โดย PBOC ออกมาเปิดเผยวันนี้ว่า ยอดการจัดหาเงินทุนโดยรวม (Aggregate Financing) ซึ่งเป็นการวัดยอดปล่อยสินเชื่อในวงกว้างอยู่ที่ 3.12 ล้านล้านหยวน หรือ 4.29 แสนล้านดอลลาร์ (ประมาณ 14.157 ล้านล้านบาท) ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 2.7 ล้านล้านหยวนในการสำรวจของบลูมเบิร์ก ขณะที่ยอดปล่อยสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.5 ล้านล้านหยวนในเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว
ขณะที่สถาบันการเงินเสนอสินเชื่อใหม่มูลค่า 1.36 ล้านล้านหยวนในเดือนนี้ มากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ 1.25 ล้านล้านหยวน
ด้านบทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก ระบุว่า
โดยทั่วไปการขยายตัวของยอดการปล่อยสินเชื่อจะแข็งแกร่งขึ้นในเดือน ส.ค. หลังจากที่ลดลงในเดือนก่อนหน้า แม้ว่ายอดการขอสินเชื่อในเดือน ก.ค. จะหดตัวมากเป็นพิเศษ เนื่องจากภาคธุรกิจและผู้บริโภคควบคุมความต้องการสินเชื่ออย่างมีนัยสำคัญ ท่ามกลางเศรษฐกิจที่ชะลอตัว
ทั้งนี้ ยอดการปล่อยสินเชื่อล่าสุดของจีนแสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่ “อุปสงค์สินเชื่อที่อยู่อาศัย” ของครัวเรือนจะเริ่มกลับมามีเสถียรภาพ หลังจากที่ทางการได้ดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อช่วยหนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์
ทั้งหมดเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดที่แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนอาจอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากจุดตกต่ำที่สุดแล้ว โดยตัวชี้วัดเหล่านั้นประกอบด้วย การส่งออกในเดือน ส.ค. หดตัวน้อยกว่าเดือนก่อนหน้า มาตรวัดการผลิตที่สำคัญปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย และแรงกดดันจากภาวะเงินฝืดลดลง เป็นต้น
อ้างอิง