การยาสูบฯ วิกฤติหนัก กำไรวูบเหลือแค่หลักร้อยล้าน
การยาสูบฯ วิกฤติหนัก ผลกระทบหลักจากการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิต ทำกำไรวูบจาก 9 พันล้าน เหลือแค่ 100 ล้าน จับมือหน่วยงานเกี่ยวข้องร่วมแก้ไขบุหรี่นอก - เถื่อนแย่งตลาด
นายภูมิจิตต์ พงษ์พันธุ์งาม ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากมีการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตบุหรี่ในปี 60 และปี 64 ส่งผลให้การยาสูบฯ ได้รับผลกระทบทางธุรกิจ และทำให้รายได้ปรับลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง จากในปี 60 การยาสูบฯ เคยมีรายได้ส่งให้รัฐอยู่ที่ 8,000-9,000 ล้านบาท แต่ผลกำไรปีล่าสุดในปี 65 ลดเหลือเพียง 100 ล้านบาทเท่านั้น อีกทั้งยังทำให้การยาสูบฯ มีการรับซื้อใบยาลดน้อยลงมาก สร้างความเดือดร้อนแก่เกษตรกรผู้ปลูกใบยาสูบอีกด้วย
“สาเหตุที่ทำให้การยาสูบฯ ได้รับผลกระทบ มาจากการปรับตัวของคู่แข่งที่อยู่ตลาดบุหรี่ในประเทศ ทำให้บุหรี่ต่างประเทศสามารถแข่งขันได้มากขึ้น อีกทั้งยังมีเรื่องของบุหรี่ผิดกฎหมาย เพราะหลังการปรับโครงสร้างภาษีใหม่ทำให้บุหรี่มีราคาสูงขึ้น จนเกิดการลักลอบนำบุหรี่เถื่อนที่มีราคาถูกกว่าเข้ามาขายแข่งในประเทศ”
ดังนั้น การยาสูบฯ จึงได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งคณะอนุกรรมการปราบปรามบุหรี่ผิดกฎหมาย ซึ่งได้บูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสรรพสามิต ศุลกากร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ในการดูแลเรื่องนี้อย่างเข้มแข็ง ตลอดจนการให้ความรู้กับเจ้าหน้าที่เข้าไปปราบปราม ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานทหาร ตำรวจ หรือหน่วยงานฝ่ายปกครอง
ขณะเดียวกัน การยาสูบฯ ยังมีสำนักป้องกันบุหรี่ผิดกฎหมาย ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เน้นให้ความรู้กับหน่วยงานราชการต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องของบุหรี่ปลอมปน บุหรี่ผิดกฎหมาย แสตมป์ยาสูบที่ปลอม เพราะการให้ความรู้เรื่องบุหรี่ผิดกฎหมายกับประชาชนจะทำได้ค่อนข้างลำบาก เนื่องจากมี พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ไม่สามารถที่จะโฆษณาประชาสัมพันธ์หรือให้ความรู้เกี่ยวกับบุหรี่ผิดกฎหมายโดยตรงได้
นอกจากนี้ การยาสูบฯ ยังได้ปรับตัว ในการผลิตบุหรี่ทั้งขายในประเทศ และส่งออกใบยาสูบไปต่างประเทศ เพื่อให้อุตสาหกรรมนี้ยังคงทำรายได้ให้กับประเทศ และส่งเสริมพี่น้องเกษตรกรที่ทำการเพาะปลูก รวมถึงในอนาคตอาจจะมีเรื่องของการสกัดสารนิโคตินเพื่อการแพทย์จากใบยา หรือผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อรับกับแนวโน้มการบริโภคบุหรี่ที่ลดลงในอนาคตอีกด้วย
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์