หาก ’จีน’ แย่แล้ว ‘การลงทุน’ จะเป็นอย่างไร

หาก ’จีน’ แย่แล้ว ‘การลงทุน’ จะเป็นอย่างไร

“เศรษฐกิจจีน” ยังไม่สดใส การลงทุนจะเป็นอย่างไร เมื่อ MSCI EM index ลดน้ำหนักลงเหลือ33% จาก41% หันเพิ่มน้ำหนักในไต้หวัน-เกาหลีใต้ -อินเดีย ผู้จัดการกองทุน ส่องอนาคตจีนฟื้นกลับ น่าสนใจอีกครั้ง ช่วงนี้รอความเสี่ยงภาค อสังหาฯคลี่คลาย “ชะลอเก็บ อย่าขาย รอราคาลง ทยอยเก็บ”

Key points: 

  • MSCI EM index ลดน้ำหนักลงเหลือ33% จาก41% หันเพิ่มน้ำหนักในไต้หวัน-เกาหลีใต้ -อินเดีย 
  • เศรษฐกิจจีน แม้โตต่ำกว่าคาด แต่เริ่มเห็นทางการจีน มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเดินหน้าอุ้มอสังหาริมทรัพย์ จะช่วย"หุ้นจีน"ฟื้นแรง  
  • Ian Beattie ผู้จัดการกองทุน Nedgroup Investments Global Emerging Markets Equity fund เชื่ออนาคตจีนฟื้นกลับมาได้ด้วยดีและเป็นที่น่าสนใจอีกครั้ง ทยอยลงทุนตามความเสี่ยงรับได้
  • กองทุน UOBSGC หนึ่งเดียว ให้ผลตอบแทน"บวก" มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี  7.85% ผลตอบแทนย้อนหลัง 3ปี  2.39%
  • บลจ.อีสท์สปริง แนะหุ้นจีนราคาเริ่มถูก แต่ต้องระวัง รอจับตาดูความเสี่ยงภาคอสังหาฯคลี่คลายก่อน " ยังไม่ขาย ชะลอเก็บ อย่าขาย รอราคาถูกมากๆ ทยอยเก็บอีกรอบ" 

นอกจากเรื่องของ" เศรษฐกิจจีน"ที่ยังดูไม่ดีนัก ยังมีอีกหลายๆเรื่องที่ทำให้คาดว่าโลกของเรากำลังเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ เช่น

VinFast ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเวียดนาม ที่มีขนาดธุรกิจในปัจจุบันที่ใหญ่กว่า Ford หรือ GM แล้ว หรืออย่างBurger King ใน India ที่เปลี่ยนเมนูอาหารเนื่องมาจากราคามะเขือเทศที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก หรือการที่รัสเซียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อรักษาค่าเงินรูเบิล 

รวมไปถึงการที่ชาติตะวันตกร่วมกันตอบโต้การกระทำของรัสเซียแต่ก็พยายามที่จะเลี่ยงให้เกิดภาวะสงคราม เป็นต้น 

หาก ’จีน’ แย่แล้ว ‘การลงทุน’ จะเป็นอย่างไร

 

หากจีนแย่แล้วการลงทุนจะเป็นอย่างไร

รายงานจาก "มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) " ระบุว่า ที่ผ่านมานักลงทุนต่างตื่นเต้นกับโอกาสการลงทุนในจีนที่เศรษฐกิจเติบโตได้ดีจนสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนได้สูงมากเมื่อเทียบกับการลงทุนในชาติตะวันตก

 และส่งผลให้"ตลาดหุ้นจีน"มีน้ำหนักค่อนข้างมากในดัชนีหลักต่างๆอย่างเช่น MSCI EM index ซึ่งในปี 2020 ตลาดหุ้นจีนมีน้ำหนักในดัชนีมากถึง 41% 

อย่างไรก็ดีแม้ว่าน้ำหนักในปัจจุบันของจีนได้ปรับลดลงเหลือ 33% และมีน้ำหนักจากประเทศอื่นมากขึ้นแทน เช่น Taiwan (14.77%), India (14.21%) และ South Korea (12.38%) เป็นต้น

แต่การลงทุนในดัชนีตลาดเกิดใหม่ก็ยังทำให้นักลงทุนมีสัดส่วนการลงทุนค่อนข้างมากในจีนอยู่ดี รวมไปถึงในประเทศขนาดใหญ่ไม่กี่แห่งในเอเชียเท่านั้น

 

ปัจจุบันประเทศในเอเชียและใน EM รวมถึงจีนอาจตกอยู่ในภาวะ "Middle income trap" 

อย่างไรก็ดี "Ian Beattie"  ผู้จัดการกองทุน Nedgroup Investments Global Emerging Markets Equity fund เชื่อว่า "จีนกําลังถอยหลังภายใต้การนําของนายสีจิ้นผิง แต่อย่างไรก็ดีในอนาคตจีนก็อาจฟื้นกลับมาได้ด้วยดีและเป็นที่น่าสนใจอีกครั้ง"

ทั้งนี้ไม่ว่า "จีน" จะเป็นผู้ชนะในวัฐจักรรอบนี้ สิ่งสำคัญของการลงทุนอยู่ที่การยอมรับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้

หาก ’จีน’ แย่แล้ว ‘การลงทุน’ จะเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ "มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) " รายงานกองทุนหุ้นจีน มีผลตอบแทนสูงสุด  10 อันดับ ณ 15 ก.ย.2566 ดังนี้ 

1. UOBSGC มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี  7.85% และผลตอบแทนย้อนหลัง 3ปี  2.39%

2.TMBCHEQ มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี - 3.85% และผลตอบแทนย้อนหลัง 3ปี -3.73%

3.KF-HCHINAD  มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี -11.80% และผลตอบแทนย้อนหลัง 3ปี -7.70%

4.SCBCEE มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี -0.86% และผลตอบแทนย้อนหลัง 3ปี -7.85%

5.SCBCHAE มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี -3.38%  และผลตอบแทนย้อนหลัง 3ปี -7.92%

6.KFCHINARMF มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี -12.01% และผลตอบแทนย้อนหลัง 3ปี  -8.01%

7.K-CHX มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี -3.23% และผลตอบแทนย้อนหลัง 3ปี -8.13%

8.SCBCEP มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี -1.45% และผลตอบแทนย้อนหลัง 3ปี -8.64%

9.SCBCE มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี -1.56% และผลตอบแทนย้อนหลัง 3ปี -8.77%

10.SCBCHA มีผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี -4.07% และผลตอบแทนย้อนหลัง 3ปี -8.84%

"ยิ่งยง เจียรวุฑฒิ" รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายจัดการลงทุน บลจ.อีสท์สปริง แนะนำว่า การจัดพอร์ตการลงทุนช่วงเหลือปีนี้ นักลงทุนยังต้องผสมหลายหลากหลายกองทุน ตามระดับความเสี่ยงที่รับได้  โดย หุ้นจีน เป็น1ใน 4 ธีมการลงทุนเด่น (หุ้นปันผล หุ้นเทคโนโลยีสหรัฐ  หุ้นเวียดนาม รวมถึงตราสารหนี้คุณภาพทั้งไทยและต่างประเทศ)

มองว่า เศรษฐกิจจีน แม้จะเติบโตต่ำกว่าที่คาด แต่เริ่มเห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเดินหน้าอุ้มอสังหาริมทรัพย์จะช่วยหุ้นจีนฟื้นแรง  และมาตรการด้านการคลังของจีน เริ่มทยอยออกต่อเนื่อง หากยังไม่สามารถถึงเป้าหมายได้และ คาดว่า จะมีมาตรการชุดใหญ่ ออกมาปลายปี  ทำให้ภาพของเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวด้วย

อย่างไรก็ตามแม้ราคาหุ้นจีนเริ่มถูก แต่แนะนำว่าการเข้าลงทุนใหม่หรือเพิ่มเติมใน "หุ้นจีน" ยังต้องระมัดระวัง และนักลงทุนเดิมยังไม่ควรขาย  ในช่วงที่มีความเสี่ยงภาคอสังหาฯ ยังไม่เสร็จ และการกู้ยืมเงินของรัฐบาลท้องถิ่นยังต้องจับตามอง รอจับตาดูสถานการณ์ก่อน "ชะลอเก็บ อย่าขาย รอราคาถูกมากๆ ทยอยเก็บ"