IMF ยุติการให้เงินช่วยเหลือศรีลังกา ชั่วคราวหลังพบพิรุธในการจัดเก็บภาษี
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ยุติการให้เงินสนับสนุนศรีลังกาชั่วคราว หลังพบพิรุธในกระบวนการจัดเก็บภาษี โดยทั้งสองล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงที่จะปูทางสำหรับกองทุนชุดต่อไปภายใต้โครงการให้กู้ยืมมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์
สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทมส์ (Financial Times) รายงานวันนี้ (28 ก.ย.66) ว่า ศรีลังกา และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ล้มเหลวในการบรรลุข้อตกลงที่จะปูทางสำหรับกองทุนชุดต่อไปภายใต้โครงการให้กู้ยืมมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์ (9.9 หมื่นล้านบาท) ที่ออกแบบมาเพื่อนำประเทศที่ตกอยู่ในปัญหาออกจากวิกฤติเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ทีมงาน IMF สรุปการเยือนศรีลังกาเป็นเวลา 2 สัปดาห์เมื่อวันพุธ ว่า ไม่บรรลุข้อตกลงกับศรีลังกา ซึ่งจำเป็นสำหรับการปลดล็อกการเบิกจ่ายงบประมาณ 333 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ1.09 หมื่นล้านบาท) ครั้งต่อไปภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งได้มีการตกลงกันครั้งแรกไปแล้วในเดือนมี.ค.
ในขณะที่ศรีลังกามี “ความก้าวหน้าที่น่ายกย่อง” ในการดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจ IMF กล่าว ทว่ามาตรการในการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีและรายได้กลับไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
โดยบทวิเคราะห์ของสำนักข่าวไฟแนนเชียลไทมส์ ระบุว่า
การไม่ได้รับเงินช่วยเหลือครั้งนี้ อาจทำให้ความสามารถของรัฐบาลในการให้บริการสาธารณะที่จำเป็นลดลง และบ่อนทำลายเส้นทางสู่ความยั่งยืนของการบริหารหนี้ในประเทศ
ทั้งนี้ คณะกรรมการของ IMF จะยังไม่เบิกจ่ายเงินช่วยเหลืองวดถัดไปจนกว่าเจ้าหน้าที่จะบรรลุข้อตกลงที่จำเป็น
นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องการจัดเก็บภาษีเป็นหัวข้อที่น่ากังวลเป็นพิเศษสำหรับศรีลังกา โดยที่ผ่านมาอดีตประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา (Gotabaya Rajapaksa) ประกาศลดภาษีหลังจากได้รับการเลือกตั้งในปี 2562 ส่งผลให้อัตราส่วนภาษีต่อจีดีพี (Tax-to-GDP) ของประเทศตกต่ำลงสู่อัตราที่แย่ที่สุดในโลกที่ประมาณ 8%
โดยการปรับเปลี่ยนดังกล่าวทำประเทศขาดรายได้ที่สำคัญซึ่งส่งผลให้มีการผิดนัดชำระหนี้อย่างกว้างขวาง
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์