IMF หั่นคาดการณ์ GDP ไทย 2 ปีซ้อน คาดปี 66 โตไม่ถึง 3%

IMF หั่นคาดการณ์ GDP ไทย 2 ปีซ้อน คาดปี 66 โตไม่ถึง 3%

"กองทุนการเงินระหว่างประเทศ" หั่นคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจไทย ปี 2566 และ 2567 เหลือเพียง 2.7% และ 3.2% ตามลำดับ จากเดิมอยู่ที่ 3.4% ในปี 2566 และ 3.6% ในปี 2567 หลังเผชิญวิกฤติรอบด้าน เตือน "เงินเฟ้อโลก" จากราคาพลังงานพุ่ง เพราะสงครามอิสราเอล

หลังจากเกิดความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกจำนวนมาก รวมทั้งเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัว สำทัพด้วยความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ เมื่อวานนี้ (10 ต.ค.) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยรายงาน World Economic Outlook ประจำเดือน ต.ค. ในงาน Marrakech 2023 World Bank Group – IMF Annual Meetings ระหว่างวันที่ 9-15 ตุลาคม 2023 ณ เมืองมาร์ราเกช ประเทศโมร็อกโก ว่า

เศรษฐกิจไทยทั้งปี 2566 มีแนวโน้มขยายตัวอยู่ที่ 2.7% ซึ่งลดลงจากคาดการณ์จากรายงานเมื่อเดือน ก.ค. ซึ่งอยู่ที่ 3.4% และแนวโน้มการเติบโตดังกล่าวยังน้อยกว่าตัวเลขของธนาคารโลก (World Bank) ด้วย

นอกจากนี้ IMF ยังประเมินว่าปี 2567 เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวอยู่ที่ 3.2% ลดลงจากรายงานเมื่อเดือน ก.ค. ซึ่งคาดการณ์ว่าจะขยายตัวมากถึง 3.6%

อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าว ยังระบุว่า จากข้อมูลล่าสุด ณ เดือน ส.ค. อัตราเงินเฟ้อของประเทศไทยยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในอาเซียน

ไม่ว่าจะเป็น สปป.ลาว, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, เวียดนาม และมาเลเซีย ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากมาตรการช่วยเหลือด้านค่าครองชีพของภาครัฐและราคาของสินค้ากลุ่มอาหารปรับตัวลดลง

ขณะที่ ปิแอร์-โอลิวิเยร์ กูรินชาส์ (Pierre-Olivier Gourinchas) ผู้อำนวยการงานฝ่ายวิจัยของ IMF กล่าวว่า หลังจากเกิดความขัดแย้งในอิสราเอล-ปาเลสไตน์ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นถึง 4% ทันที และหากท้ายที่สุดราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นถึง 10% ก็จะกระทบต่อเศรษฐกิจโลกราว 0.15% และดันให้เงินเฟ้อขยายตัวขึ้นอีกประมาณ 0.4%

อ้างอิง

IMF