ผู้นำขวาจัดอิตาลีจ่อทุ่ม 10 ล้านล้านบาท หั่นภาษี - ขึ้นค่าแรงภาครัฐ
นายกรัฐมนตรี จอร์เจีย เมโลนี (Giorgia Meloni) ของอิตาลี วางแผนที่จะใช้จ่าย 2.4 แสนล้านยูโร (9.3 ล้านล้านบาท) ในการลดภาษี และขึ้นค่าจ้างภาครัฐในปีหน้า หวังกระตุ้นการเติบโตปี 2567 แตะ 1.2%
สำนักข่าวไฟแนนเชียลไทมส์ (Financial Times) รายงานวันนี้ (17 ต.ค.66) ว่า นายกรัฐมนตรีขวาจัด จอร์เจีย เมโลนี (Giorgia Meloni) ของอิตาลี วางแผนที่จะใช้จ่าย 2.4 แสนล้านยูโร (9.3 ล้านล้านบาท) ในการลดภาษีและขึ้นค่าจ้างภาครัฐในปี 2567 เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ และสนับสนุนการเติบโตที่ชะลอตัวมานาน แม้ว่านักลงทุนจะมีความกังวลเกี่ยวกับการเงินของประเทศก็ตาม
ทั้งนี้ หลังจากที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติงบประมาณปีหน้าเมื่อวันจันทร์แล้ว เมโลนี กล่าวว่า กลุ่มพันธมิตรฝ่ายขวาทั้งสามพรรคภายใต้การดูแลของเธออยู่ในช่วงทำงานเพื่อปฏิบัติตามคำสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างการเลือกตั้งคือ การลดภาษี และเพิ่มค่าจ้างภาครัฐ แม้ว่าจะมีแรงกดดันต่อการเงินสาธารณะก็ตาม
“เงินจำนวนนั้นเป็นงบประมาณที่คิดมาดีแล้ว และมีความเป็นไปได้มากที่สุด และต้องการมุ่งเน้นการใช้เงินไปที่มีขนาดใหญ่เพื่อสร้างแรงสั่นสะเทือนทางเศรษฐกิจมหาศาล” เมโลนี กล่าว
พร้อมเสริมว่า “สิ่งสำคัญอันดับแรกของเราคือ การปกป้องกำลังซื้อของภาคครัวเรือน”
จากมาตรการทั้งหมดรัฐบาลของ เมโลนี คาดการณ์ว่าการเติบโตของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของอิตาลีจะอยู่ที่ 1.2% ในปีหน้า ซึ่งเปรียบเทียบกับการคาดการณ์ของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ 0.7% ขณะที่ธนาคารกลางแห่งอิตาลี คาดการณ์การขยายตัวเพียงที่ 0.8% ในปี 2567
อ้างอิง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์