‘อาทิตย์’ เคลื่อนทัพ ‘เอสซีบีเอกซ์’ ดัน 3 เป้าหมาย ลุย ‘แบงก์ไร้สาขา’

ปัญหา “หนี้ครัวเรือน” ยังเป็นโจทย์ใหญ่ โจทย์เร่งด่วน ที่เป็นปัญหาทั้งระยะสั้น และระยะยาว สำหรับเศรษฐกิจไทย ที่ต้องเร่งแก้อย่างเร่งด่วน เพราะตราบใดที่หนี้ครัวเรือนยังอยู่ระดับสูงต่อเนื่อง เผชิญปัญหาหนี้มากกว่ารายได้ ไม่มีทางที่เศรษฐกิจไทย จะกลับมาเติบโตได้อย่างยั่งยืน

“อาทิตย์ นันทวิทยา” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB ให้สัมภาษณ์ “กรุงเทพธุรกิจ” เกี่ยวกับ เป้าหมายในการดำเนินธุรกิจในระยะข้างหน้า ของ “เอสซีบี เอกซ์” โดยหวังว่า เอสซีบี เอกซ์ จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อนประเทศ ช่วยเปิดโอกาสให้คนส่วนใหญ่ของประเทศ ได้รับโอกาสใหม่ๆ ทางการเงินมากขึ้น
 

โดย “อาทิตย์” เล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันปัญหาเร่งด่วน และเป็นปัญหาระยะสั้นที่เศรษฐกิจไทยเผชิญคือ ปัญหา “หนี้ครัวเรือน” ​เนื่องจากสถานการณ์หนี้ทุกส่วนเพิ่มขึ้น ทั้งหนี้ในระบบ และนอกระบบเพิ่มขึ้นมาก ฝั่งรายได้ของคนที่มีรายได้ปานกลาง ไปถึงกลุ่มที่มีรายได้น้อย รายได้หายไปจำนวนมากในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาจากผลกระทบโควิด-19

ดังนั้น วิธีเดียวเพื่อทำให้สามารถอยู่รอดได้ คือ การ “กู้เงิน” ทั้งในและนอกระบบ แม้ปฏิเสธไม่ได้ว่า ส่วนหนึ่ง กู้มาเพื่อใช้ฟุ่มเฟือย ใช้จ่ายเกินตัว แต่ส่วนหนึ่งก็เพื่อมาลดทอนความเดือดร้อนของคน จากเดิมที่แย่อยู่แล้ว ทำให้เป็นหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ “หนี้ครัวเรือน” ปรับตัวเพิ่มขึ้น
 

แม้ปัญหาหนี้จะไม่ใช่ปัญหาที่สามารถแก้ได้ระยะเวลาสั้นๆ เพราะเป็นปัญหาสะสมของคนไทยมานาน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่มีรายได้น้อย ดังนั้น ต้องทำหลายสิ่งหลายอย่างประกอบกับ เพื่อให้ปัญหาเหล่านี้คลี่คลายได้ เช่น การเพิ่มรายได้ให้คนมีโอกาสมีรายได้เพิ่มขึ้น ทั้งทางตรง และทางอ้อม จัดสรรผลประโยชน์ให้คนส่วนใหญ่ทั้งประเทศสามารถฉกฉวยโอกาสร่วมกันได้

รวมไปถึงโจทย์ของการลดภาระหนี้ โดยเฉพาะ “ภาระดอกเบี้ย” ให้ลดลง และไม่สูงจนเกินไป จนกระทั่ง “ลูกหนี้” หรือประชาชนไม่มีมีโอกาสที่จะมีชีวิตที่อิสระ หรือไม่มีโอกาสในการมีรายได้มากกว่ารายจ่ายเลย

โจทย์เหล่านี้ เป็นหนึ่งในเป้าหมายของ “เอสซีบี เอกซ์” ที่ตระหนัก และให้ความสำคัญต่อเนื่อง สอดคล้องกับแนวทางของรัฐบาล กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ต้องการผลักดัน “Virtual Bank” หรือ ธนาคารไร้สาขา

วัตถุประสงค์สำคัญ ก็เพื่อให้มีหน่วยงาน ธนาคารรูปแบบใหม่ ที่จะเข้ามาช่วย “เปิดโอกาส” สร้างโอกาส เพื่อทำให้คนที่มีรายได้น้อย สามารถเข้าถึงแหล่งเงินกู้ แบบที่มีความ “เป็นธรรม” และมีเหตุมีผล กว่าสิ่งที่เป็นอยู่ขณะนี้ ที่จะเป็นตัวช่วยหนึ่งที่จะแก้ปัญหาหนี้ ลดภาระดอกเบี้ยของประชาชนได้ แม้สิ่งเหล่านี้จะไม่ใช่คำตอบ หรือทางออกทั้งหมด แต่การเพิ่มรายได้ ระยะกลางระยะยาว การลดภาระดอกเบี้ยค่าใช้จ่ายต่างๆ การเปิดโอกาสในการเข้าถึงทางการเงิน เหล่านี้ก็ทำให้ประชาชน “ลูกหนี้” สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างที่ควรจะเป็นมากขึ้น

“อาทิตย์” ฉายภาพต่อว่า การเดินหน้าเรื่อง Virtual Bank ถือเป็น 1 ใน 3 เรื่องสำคัญที่ “เอสซีบี เอกซ์” มี Commitment หรือความมุ่งมั่นที่จะทำเพื่อใช้ผลักดันธุรกิจภายใต้กลุ่มของ “เอสซีบี เอกซ์” ทั้งธุรกิจใหม่ ที่กำลังจะก่อตั้ง หรือลงทุนใหม่

โดยมี 3 เป้าหมาย หรือ 3 เรื่องที่ต้องเดินหน้า เรื่องแรก คือ การตอบโจทย์ความไม่เท่าเทียมกันของรายได้ เรื่อง Income Inequality รวมถึงการเสริมสร้างการเข้าถึงบริการทางการเงิน (Financial Inclusion) ซึ่งการตอบสนองเรื่องเหล่านี้ เอสซีบี เอกซ์ มองว่า จะทำให้สังคม มีทางเลือกมากขึ้น โดยเฉพาะคนมีรายได้น้อย เหล่านี้คือความมุ่งมั่นของ เอสซีบี เอกซ์ ที่จะทำเรื่องนี้

เป้าหมายที่สอง คือ การลงทุนด้าน Disruptive Technology เพราะมองว่า การมาของเทคโนโลยีใหม่ๆ ไม่ว่า จะเป็นเรื่อง Blockchain หรือ AI เหล่านี้จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงโลก และสร้างผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจทุกภาคส่วน ไม่ว่าภาครัฐบาล หรือเราทุกคนอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ

ในมุมบวก หากเรารู้จักฉกฉวยโอกาสในการปรับตัว และเลือกนำมาปรับใช้ แต่อีกด้านที่เป็นลบอย่างมาก หากเรา ไม่สนใจ (Ignore) นิ่งเฉย หรือไม่ได้ให้ความสำคัญกับมัน ดังนั้นการเรื่องลงทุนด้านเทคโนโลยี ใน Disruptive Technology เป็นเรื่องที่จำเป็น

หากมองไปในระยะข้างหน้า เป้าหมายของประเทศไทย คือการเป็น ดิจิทัลฮับ เกี่ยวกับ Data Center ฮับในการเป็น Digital asset หรือ Web3 ที่สิ่งเหล่านี้มาก่อนกาลเวลา และเราเชื่อว่า ความสามารถด้านเทคโนโลยีเหล่านี้จะเข้ามาเปลี่ยนโลก “เอสซีบี เอกซ์” จึงมีความมุ่งมั่นที่จะผลักดัน และพยายามลงทุนให้บริษัทมีความสามารถด้านนี้มากขึ้น

สุดท้าย เป้าหมายที่สาม คือ Climate change หรือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ โดยการลงทุนในด้านต่างๆ เพื่อผลักดันให้สังคมไทย เศรษฐกิจไทยได้ประโยชน์ ซึ่งเป็นการลงทุนเพื่อสร้างขีดความสามารถใหม่ๆ สร้างกระบวนการใหม่ เพื่อให้สังคม เศรษฐกิจไทย สามารถปรับตัวไปสู่สังคมที่ “ตระหนัก” และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลดลงได้ 

เหล่านี้เป็นเทรนด์ใหม่ และมีผลกระทบที่รุนแรงมาก หากสังคมหรือเศรษฐกิจใดๆ ไม่ปรับตัวเข้าสู่ทิศทางนี้ เราจะถูก “กีดกัน” หรือได้รับการต่อต้าน จากคนส่วนใหญ่ของโลกได้

ดังนั้น เรามองว่าเป็นเรื่องที่ ต้องมองให้เป็นทั้งโอกาส ในการทำธุรกิจ และมองการลงทุน อย่างรับผิดชอบ เพื่อช่วยเตรียมความพร้อม ให้ทุกคนเกิดการปรับตัว และตระหนักเรื่องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในระยะข้างหน้ามากขึ้น

“อาทิตย์” ยังให้ความเห็นเรื่อง “อัตราดอกเบี้ย” ที่กำลังเป็นประเด็นร้อนในขณะนี้ว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยของไทยที่ผ่านมา ถือเป็นการปรับตัวตามทิศทางกระแสหลักของโลก ส่งผลให้เกิดเงินทุนเคลื่อนย้าย และความผันผวนเกิดขึ้น แต่ในระยะข้างหน้า แรงกดดันที่จะต้องทำให้ดอกเบี้ยอยู่ระดับสูงต่อไปลดลง ดังนั้นคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)น่าจะปรับลดดอกเบี้ยลงมาได้ในปีนี้ เช่นเดียวกันประเทศไทย ที่มีโอกาสเห็นดอกเบี้ยอ่อนตัวลง ตามประเทศใหญ่ได้

แม้ที่ผ่านมา ต้นทุนดอกเบี้ยปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามการขยับดอกเบี้ยของ คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์ต้องส่งผ่านดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น แต่อีกด้าน ธนาคารก็มีการดูแลลูกหนี้อย่างระมัดระวังต่อเนื่อง ในการไม่เข้าไปสร้างผลกระทบไปสู่ลูกค้าที่มีผลกระทบรุนแรงในช่วง 3-4ปีที่ผ่านมา และธนาคารยังมีการช่วยลูกค้าต่อเนื่อง ในการเข้าไปปรับโครงสร้างหนี้ ยกเว้นดอกเบี้ย ปรับโครงสร้างให้ดอกเบี้ยลูกค้าลดลง ในช่วงวิกฤติ

ดังนั้นหวังว่า เมื่อภาพรวมดีขึ้น “เซนทิเมนต์” โดยรวมจะปรับตัวดีขึ้นได้ ทั้งในตลาดหุ้น หุ้นกู้ ที่จะกลับมามีความเชื่อมั่นมากขึ้น

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์