นายแบงก์ทั่วเอเชีย เข่าทรุด! ชวดโบนัส-ค่าตอบแทนต่ำสุดรอบ 20 ปี

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิดว่า ค่าตอบแทนรวมสำหรับวาณิชธนากรอาวุโสส่วนใหญ่ของบริษัทวาณิชธนกิจจากวอลล์สตรีทในเอเชีย (ไม่นับรวมญี่ปุ่น) ลดลงสู่ระดับ 700,000-800,000 ดอลลาร์ (ราว 25.03-28.61 ล้านบาท) ต่ำกว่าระดับ 1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 35.76 ล้านบาท) ซึ่งเป็นรายได้ปกติที่วาณิชธนากรอาวุโสได้รับนับตั้งแต่เข้าสู่ยุคมิลเลนเนียม

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า กรรมการผู้จัดการของธนาคารต่าง ๆ เช่น มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) และยูบีเอส กรุ๊ป เอจี (UBS Group AG) อย่างน้อย 20% “ไม่ได้รับเงินโบนัส” ในปีที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า สาเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าจ้างลดลงเกิดจากการที่บริษัทต่าง ๆ พยายามลดค่าใช้จ่าย เนื่องจากกิจกรรมการทำข้อตกลงลดลงมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาตร์ ซึ่งได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดทางการเมืองที่เพิ่มสูงขึ้นและการปราบปรามบริษัทเอกชนในจีน

บลูมเบิร์กรายงานว่า โกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป อิงค์ (Goldman Sachs Group Inc.), เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค (JPMorgan Chase & Co.) และซิตี้กรุ๊ป อิงค์ (Citigroup Inc.) ได้ปรับลดพนักงานในเอเชียหลายรอบตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา เนื่องจากการขายหุ้นและการควบรวมกิจการลดลง โดยหุ้นเอเชีย ซึ่งไม่นับรวมญี่ปุ่น ปรับตัวลดลง 30% ในปีที่ผ่านมา เทียบกับการปรับขึ้น 45% ในสหรัฐ

แหล่งข่าวเปิดเผยว่า แบงก์ ออฟ อเมริกา คอร์ป (Bank of America Corp.) ปรับลดพนักงานในธุรกิจวาณิชธนกิจกว่า 20 ตำแหน่งในฮ่องกงในสัปดาห์นี้ ขณะที่ยูบีเอสปลดวาณิชธนากรประมาณ 20 รายในเอเชีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับจีนในฮ่องกง ส่วนเจพีมอร์แกนปลัดพนักงานที่ดูแลเรื่องการทำข้อตกลงประมาณ 30 ตำแหน่งในเอเชียในปีนี้

ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวเสริมว่า ค่าตอบแทนรวมสำหรับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการธนาคารปรับลดลง 20-25% ทั่วทั้งเอเชีย ส่วนการประกาศงดจ่ายโบนัสหรือจ่ายโบนัสน้อยลงนั้น ปรากฏให้เห็นชัดเจนกว่าการประกาศปรับฐานเงินเดือนด้วย

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ บรรดาธนาคารที่ถูกเอ่ยถึงในรายงานนี้ ยังไม่ออกมาแสดงความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับค่าตอบแทนของพนักงานบริษัท

อ้างอิง: Bloomberg