เสียงเตือนจาก “เครดิตบูโร” หนี้เสียทะลุ “1 ล้านล้าน” สินเชื่อบ้านจ่อระเบิด

ถอดบทสรุป “เสียงเตือน” จาก “สุรพล โอภาสเสถียร” ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือ “เครดิตบูโร” ซึ่งให้สัมภาษณ์กับ “กรุงเทพธุรกิจ”

โดยพยายามตะโกนบอกให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดูแลปัญหา “หนี้เสียท่วมประเทศ” ก่อนที่ปัญหาทุกอย่างจะบานปลายออกไปมากกว่านี้  

 •    เศรษฐกิจไทยแม้ออกจาก “วิบัติ” ของวิกฤติโควิด แต่ยังอยู่ใน “วิบาก” ของวิกฤติหนี้(ครัวเรือน) เพราะยังต้องตามใช้หนี้ก้อนโต

•    ข้อมูล “เครดิตบูโร” ที่รวม “หนี้ครัวเรือน” ทั้งในระบบสถาบันการเงิน นอนแบงก์ และ แบงก์รัฐ ในไตรมาส 4 ปี 2566 พบว่า หนี้ครัวเรือนไทย เพิ่มขึ้นแตะ 13.68 ล้านล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 3.7% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

•    ที่น่าเป็นห่วง คือ คุณภาพหนี้ “แย่ลงต่อเนื่อง” โดยหนี้เสีย(NPL) ยังอยู่ระดับสูงที่ 1.05 ล้านล้านบาท คิดเป็น 7.7% ของหนี้รวม 

 

•    ประเด็นที่ต้องจับตา คือ หนี้เสีย ในหลายพอร์ตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะ “สินเชื่อรถยนต์” เพิ่มขึ้นถึง 28% แตะระดับ 2.3 แสนล้านบาท 

•    หนี้เสียของกลุ่ม “สินเชื่อบัตรเครดิต” และ “สินเชื่อส่วนบุคคล” เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน โดย “บัตรเครดิต” อยู่ที่ 6.1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.9% ขณะที่ “สินเชื่อส่วนบุคคล” อยู่ที่ 1.8 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7%  

•    กลุ่มสินเชื่อที่ต้องจับตาดูเป็นพิเศษ หรือ SM ซึ่งเป็นกลุ่มที่ค้างชำระมากกว่า 30 วัน แต่ไม่เกิน 90 วัน พบว่า มีหลายพอร์ตที่น่าห่วง โดยมีหนี้ค้างชำระเพิ่มขึ้นถึง 17.8% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ทำให้มูลค่ารวมแตะ 6.1 แสนล้านบาท 

•    พอร์ตหนี้ SM ที่มียอดค้างชำระเพิ่มมากสุด คือ “สินเชื่อบ้าน” โดยพุ่งขึ้นมาถึง 31.1% เรียกว่าโตแบบก้าวกระโดด มูลค่ารวมแตะ 1.78 แสนล้านบาท

•    พอร์ต “สินเชื่อส่วนบุคคล” ในกลุ่ม SM ก็น่าจับตาไม่แพ้กัน เพราะมีหนี้ค้างชำระเพิ่มถึง 24% แตะ 1.45 แสนล้านบาท ขณะที่ “สินเชื่อรถยนต์” เพิ่มขึ้น 7.6% แตะระดับ 2.08 แสนล้านบาท

•    “สุรพล” ให้ข้อสรุปว่า คุณภาพหนี้ยังน่าห่วง สะท้อนอาการคนเริ่มผ่อนไม่ไหว ในจำนวนนี้เป็นหนี้บ้านถึง 31% ส่วนใหญ่เป็นบ้านราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท 

•    นอกจากนี้ เขายังหวังว่า แบงก์พาณิชย์ จะเข้าช่วยเหลือลูกค้า เร่งกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อป้องกันสินเชื่อบ้านระเบิดกลายเป็นหนี้เสียก้อนโต 

•    เขายังแนะนำให้ทำใจว่า ถ้าเศรษฐกิจยังโตเชื่องช้าอยู่แบบนี้ คนไทยจะยังอยู่ใน “ภาวะหนี้ท่วม” ไปอีกนาน 
 

อ่านข่าวฉบับเต็มได้ที่ :https://www.bangkokbiznews.com/finance/investment/1112426