ทีทีบี ครองอันดับหนึ่งธนาคาร ด้าน ESG ตอกย้ำผู้นำสู่ความยั่งยืน
ทีทีบี ครองอันดับหนึ่งธนาคารด้าน ESG ต่อเนื่อง ด้วยการคว้าสองรางวัลทั้งในเวทีระดับประเทศ และนานาชาติ หลังต้อนรับศักราชใหม่ ปี 2567 ด้วยการครองอันดับหนึ่งธนาคารที่มีคะแนนด้าน ESG สูงสุดต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ความยั่งยืน ตามกรอบ B+ESG
นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต เปิดเผยว่า ทุกวันนี้ทั่วโลกต่างให้ความสำคัญกับแนวคิดการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยต้องคำนึงเรื่องของ ESG ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และธรรมาภิบาล (Governance) ซึ่งทีทีบีได้วางกรอบการดำเนินธุรกิจที่มุ่งสร้างการเติบโตและความยั่งยืนอย่างสมดุลในทุกมิติมาหลายปีแล้ว ด้วยการ Make REAL Change เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงอันนำไปสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Banking)
สะท้อนความมุ่งมั่น และความตั้งใจจริงในการขับเคลื่อนองค์กรสู่เป้าหมายอย่างแท้จริง จากการครองอันดับ 1 ธนาคารที่มีผลคะแนนด้าน ESG สูงสุดติดต่อกัน 5 ปี ในการประเมินนโยบายด้าน ESG ของธนาคาร โดยแนวร่วมการเงินที่เป็นธรรมประเทศไทย (Fair Finance Thailand)
ถือเป็นหนึ่งรางวัลแห่งเกียรติยศ และความภาคภูมิใจในการผลักดันให้ทุกภาคส่วนในองค์กรร่วมกันผลักดันสร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง
ทีทีบีใส่ใจเรื่องความยั่งยืนมายาวนาน ทุกกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของธนาคารอยู่บนพื้นฐานสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม (B+ESG) ผ่านการพัฒนาโซลูชันทางการเงินที่ยั่งยืน (Sustainable Finance) และการปล่อยสินเชื่ออย่างรับผิดชอบ (Responsible Lending) เพื่อสนับสนุนธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
รวมถึงสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับลูกค้า คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ ชุมชน และสังคม ซึ่งปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคนมากขึ้น กลายเป็นประเด็นสำคัญของโลก เห็นได้จากการปรับปรุงเกณฑ์ประเมินของ Fair Finance Guide International 2023 หรือ FFGI ที่เข้มข้นกว่าเกณฑ์ชุดเดิมค่อนข้างมาก
โดยเฉพาะเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทีทีบีพร้อมปรับเปลี่ยนให้ตอบสนองกับทุกบริบทของการเปลี่ยนแปลง ดังนั้น สิ่งที่ธนาคารจะก้าวต่อไปจากนี้คือ เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ควบคู่ไปกับการทำให้ทุกคนมีชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง
นายนริศ อารักษ์สกุลวงศ์ ประธานกลุ่มกลยุทธ์องค์กรและดิจิทัล ทีเอ็มบีธนชาต กล่าวว่า “ทีทีบี มีผลคะแนนรวม 39% จากการประเมินนโยบายด้าน ESG ของธนาคาร ปี 2566 โดดเด่นในหมวดการคุ้มครองผู้บริโภคมีคะแนน 66% ที่ธนาคารได้ประกาศนโยบายในการจัดการข้อร้องเรียนของลูกค้าอย่างเป็นขั้นตอน ตั้งแต่ช่องทางการร้องเรียน ระบบการดำเนินการ ระยะเวลาการดำเนินการจัดการ และการรายงานผล พร้อมให้มีการเยียวยาลูกค้า
รวมถึงมีโครงการอบรมพนักงานในประเด็นสิทธิผู้บริโภค นโยบายคุ้มครองผู้บริโภค และธรรมเนียมปฏิบัติ เพื่อเพิ่มความตระหนักรู้ของพนักงานในการบริการ และนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ
นอกจากนี้ ทีทีบียังมุ่งมั่นขยายบริการทางการเงินให้ครอบคลุม ทำให้มีคะแนนในหมวดนี้ถึง 61% ด้วยผลิตภัณฑ์ และบริการที่ช่วยให้เข้าถึงทางการเงินให้กับลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ผ่านโทรศัพท์มือถือ และอินเทอร์เน็ตอย่างเต็มรูปแบบ เพิ่มการเข้าถึง และความสะดวกสบาย รวมทั้งกลุ่มลูกค้าที่มีถิ่นที่อยู่ห่างไกลทั่วประเทศอีกด้วย ทั้งนี้ ธนาคารยังให้ความสำคัญในประเด็นสิทธิมนุษยชนและสิทธิแรงงาน
นอกจากมีสินเชื่อบ้าน ทีทีบี ที่คู่รักเพศเดียวกันสามารถเข้าถึงสินเชื่อได้แล้ว ยังมีการประกาศนโยบายที่ครอบคลุมถึงลูกค้าธุรกิจ ที่ต้องทำธุรกิจโดยไม่ยอมรับการใช้แรงงานเด็กทุกรูปแบบ ต้องมีการปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียม รวมถึงกำหนดให้มีสภาพพื้นที่การทำงานที่ดี มีมาตรการป้องกันสุขภาพ และความปลอดภัยที่เหมาะสมด้วย
และอีกบทพิสูจน์ที่สะท้อนความมุ่งมั่นในการดำเนินงานภายใต้กรอบ B+ESG โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมคือ การเป็นที่ยอมรับบนเวทีระดับนานาชาติการันตีด้วยรางวัลอันทรงเกียรติ Best Environmental Sustainability Bank จากเวที International Finance Awards 2023 จัดโดย International Finance Magazine (IFM) นิตยสารด้านธุรกิจ และการเงินชั้นนำระดับโลกจากประเทศอังกฤษ
โดยธนาคารได้ให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมผ่านโซลูชันทางการเงินที่ยั่งยืน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ช่วยลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม อาทิ การออกตราสารหนี้เพื่อสิ่งแวดล้อม หรือตราสารหนี้สีเขียว ตราสารหนี้เพื่อความยั่งยืนทางทะเล หรือตราสารหนี้สีฟ้า สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน รวมถึงการปล่อยสินเชื่อสีเขียวเพื่อสนับสนุนธุรกิจในการอนุรักษ์และสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการเปลี่ยนแปลงสังคมสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ
“ทีทีบีตั้งเป้าหมายเป็นธนาคารที่เป็นผู้นำด้านการสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีขึ้น หรือ The Bank of Financial Well-being ให้กับคนไทย โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการที่ตอบโจทย์ได้อย่างแท้จริงกับลูกค้าทุกกลุ่มในแต่ละช่วงชีวิต ควบคู่กับการให้ความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม เพราะเชื่อว่าเป็นการสร้างความยั่งยืนได้ในระยะยาว ตอกย้ำความสำเร็จจากรางวัลด้านความยั่งยืนที่ธนาคารได้รับมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรางวัลธนาคารที่มีคะแนนด้าน ESG สูงสุดอันดับ 1 จาก Fair Finance Thailand ติดต่อกัน 5 ปี ซึ่งปีล่าสุดมีการปรับปรุงเกณฑ์การประเมินให้เข้มข้นขึ้น ถือเป็นเกณฑ์ประเมินธนาคารด้านความยั่งยืนที่ละเอียด และอัปเดตที่สุดชุดหนึ่งในโลก สะท้อนชัดถึงการลงมือทำอย่างแท้จริงของธนาคารในการขับเคลื่อนสู่การธนาคารเพื่อความยั่งยืน” นายปิติ กล่าวสรุป
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์