'ดั๊บเบิ้ล เอ' โชว์ผลงานปี 66 กวาดกำไรกว่า 1,722 ล้านบาท
บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) หรือดั๊บเบิ้ล เอ โชว์ผลงานปี 2566 รายได้พุ่งสูงแตะ 23,642 ล้านบาท กวาดกำไรกว่า 1,722 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84%
บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) โชว์ผลงานปี 2566 ด้วยรายได้รวม 23,642 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,722 ล้านบาท โตขึ้น 786 ล้านบาท หรือคิดเป็น 84% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากผลประกอบการที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ ดั๊บเบิ้ล เอ มีสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ เป็นผลจากกลยุทธ์ทางการตลาดที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ร่วมกับการมีฐานลูกค้าที่มั่นคงใน 145 ประเทศทั่วโลก และการบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ดั๊บเบิ้ล เอ สามารถคงความเป็นผู้นำใน อุตสาหกรรมกระดาษ ที่ครองใจผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
Double A ในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวสินค้าใหม่ ที่ช่วยยกระดับขีดความสามารถในการขยายตลาดเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคที่คนให้ความใส่ใจสุขภาพและสิ่งแวดล้อมขึ้น อาทิ Double A Care เพียว & พรีเมียมทิชชู, กระเป๋า Upcycling จากขวดพลาสติก และดั๊บเบิ้ล เอ กระดาษรังผึ้งกันกระแทกรักษ์โลก รวมถึงสินค้า ดั๊บเบิ้ล เอ สเตชั่นเนอรี่ ในกลุ่มไลฟ์สไตล์ และคอลเลกชันพิเศษต้อนรับ ปีมังกร
ส่วนด้านสิ่งแวดล้อม ดั๊บเบิ้ล เอ ดำเนินธุรกิจภายใต้หลักธรรมาภิบาลที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญและยึดมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการรับรองจากองค์กรระหว่างประเทศ PEFC (The Programme for the Endorsement of Forest Certification)
ทั้งนี้ ในด้านมาตรฐานของทางกระบวนการผลิตตลอดห่วงโซ่ผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่ป่าปลูกถึงลูกค้า (PEFC CoC) เพื่อให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ "ดั๊บเบิ้ล เอ" มาจากไม้ปลูก และยังมีการบริหารจัดการกระบวนการผลิตด้วยความรับผิดชอบ พร้อมสร้างคุณค่าทางสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมอย่างยั่งยืน พร้อมกันนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้เดินหน้าสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2583 และ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero Emissions ในปี 2593 อีกด้วย
สำหรับปี 2567 ดั๊บเบิ้ล เอ ตั้งเป้าเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดในหลายประเทศ โดยมุ่งเน้นไปที่ออสเตรเลียและอินเดีย พร้อมยังคงมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการใหม่ๆ เพื่อขยายการยอมรับในผลิตภัณฑ์ ภายใต้ชื่อแบรนด์ "ดั๊บเบิ้ล เอ" ให้เพิ่มมากขึ้นในตลาดโลก โดยเชื่อมั่นไม่ว่าจะในเรื่องกลยุทธ์ที่ชัดเจน ฐานลูกค้าที่มีความแข็งแกร่ง รวมไปถึงความพร้อมในการปรับตัวที่จะทำให้ในปีนี้ บริษัทฯ สามารถทำกำไรให้เติบโตขึ้นไปได้อีกไม่น้อยกว่า 30%