นักธุรกิจสูญ 300 ล้าน แก๊งหลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล ใช้รูปสาวสวยลวงใจ
อุทาหรณ์เตือนภัย ตำรวจไซเบอร์ขยายผลล่าแก๊งหลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล มิจฉาชีพใช้รูปโปรไฟล์สาวสวย หลอกลวงต้มตุ๋นนักธุรกิจสูญเงินโอนไวกว่า 300 ล้าน หลอกแอดไลน์
KEY
POINTS
- ใช้รูปประจำตัวเป็นหญิงสาวหน้าตาดี
- แอดไลน์จากหมายเลขโทรศัพท์เพื่อเพิ่มเป็นเพื่อน
- แชทหาผู้เสียหายเพื่อพูดคุยตีสนิท
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนภัย แก๊งหลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล ใช้รูปโปรไฟล์สาวสวยหลอกลวงต้มตุ๋นนักธุรกิจสูญเงินกว่า 300 ล้านบาท หลอกแอดไลน์
กลลวงแก๊งหลอกลงทุนเงินดิจิทัล
สืบเนื่องจาก เมื่อประมาณเดือนกรกฎาคม 2566 ได้มีนักธุรกิจรายหนึ่งตกเป็นผู้เสียหาย โดนคนร้ายหลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล คนร้ายได้สร้างบัญชีไลน์ใช้ชื่อ "Oil"
- ใช้รูปประจำตัวเป็นหญิงสาวหน้าตาดี
- แอดไลน์จากหมายเลขโทรศัพท์เพื่อเพิ่มเป็นเพื่อน
- แชทหาผู้เสียหายเพื่อพูดคุยตีสนิท
เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะ คนร้ายเริ่มมีการพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องการลงทุนหุ้น และการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล (USDT) ผ่านแอปพลิเคชัน Trust จาก App Store ซึ่งอ้างว่าเป็นแอปพลิเคชันกระเป๋าเงินเพื่อเก็บเหรียญดิจิทัลในการลงทุน
เมื่อผู้เสียหายเริ่มคล้อยตามและหลงเชื่อ คนร้ายจึงได้ส่งลิงก์เว็บไซต์ปลอมชื่อ ercadia.bio ซึ่งอ้างว่าใช้สำหรับการโอนเงินซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลสกุล USDT เพื่อลงทุน และใช้แจ้งผลกำไรจากการลงทุนให้ผู้เสียหายทราบ ผู้เสียหายจึงโอนเงินลงทุนเรื่อยมา
เมื่อเวลาผ่านไป ผู้เสียหายต้องการถอนเงินกำไรที่ได้จากการลงทุนออกมา ปรากฎว่าไม่สามารถถอนเงินได้ จึงรู้ว่าตนเองถูกหลอก รวมมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 300 ล้านบาท
พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. จึงสั่งการให้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ และติดตามทรัพย์สินที่ถูกหลอกลวงไป นำกลับมาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด
โดย บก.สอท.3 ได้มอบหมายให้ ว่าที่ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนออกปฏิบัติการ
ต่อมา พ.ต.ท.ธนัช ธนาบุญประกอบ รอง ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สอท.3 พร้อมชุดสืบสวนได้สืบสวนจนสามารถจับกุม น.ส.อาทิมา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ได้เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ในพื้นที่ อ.หนองปรือ จว.ชลบุรี
และขยายผลจนสามารถจับกุมผู้ร่วมขบวนการเพิ่มได้อีก 1 ราย คือ นายอรรถพล อายุ 38 ปี โดยควบคุมตัวได้ในพื้นที่ อ.หนองกุงศรี จว.กาฬสินธุ์ พร้อมแจ้งข้อหา
- ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน
- ทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน
- ร่วมกันฟอกเงิน
นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบดำเนินคดีตามกฎหมาย