คุยกับสมโภชน์ EA ในวันที่ตั้ง Super Holding Company ดันลาว เป็น สวิตเซอร์เเลนด์เอเชีย
คุยกับ “สมโภชน์ อาหุนัย” CEO มือทองแห่ง "บมจ.พลังงานบริสุทธิ์" หรือ EA ในวันที่ตั้ง บริษัทร่วมทุนกับรัฐบาลลาว "Super Holding Company" เพื่อดันลาวเป็น "สวิตเซอร์แลนด์" แห่งเอเชีย
หลังจากเมื่อวันที่ 13 พ.ค.67 ที่ผ่านมา นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ลงนามในสัญญาร่วมพัฒนาโครงการกับรัฐบาลของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ภายใต้ชื่อบริษัท "Super Holding Company" โดยวันนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" ชวนทำความเข้าใจว่าบริษัทร่วมทุนของอีเอ และสปป.ลาวคืออะไร และเกิดขึ้นมาเพื่อประโยชน์ในด้านใด
นายสมโภชน์ อาหุนัย หัวเรือใหญ่ของ EA
ความท้าทายของเศรษฐกิจ สปป.ลาว
ก่อนอื่นต้องเล่าก่อนว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สปป.ลาวเป็นหนึ่งในประเทศในอาเซียนที่ขาดดุลการค้ามากที่สุดอันดับต้นๆ ของอาเซียนซึ่งหมายความว่ารัฐบาลของ สปป.ลาว ใช้เงินซื้อสินค้าด้วยเงินดอลลาร์จากต่างประเทศมากกว่าการส่งออก
โดยสิ่งที่รัฐบาล สปป.ลาวเสียเงินซื้อมากที่สุดตลอดหลายปีที่ผ่านมาคือ การรับซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย เวียดนาม จีน สิงคโปร์ และมาเลเซียในสกุลเงินดอลลาร์เพื่อตอบสนองการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของประชาชนในประเทศ โดยในปี 2566 ยอดนำเข้าพลังงานเชื้อเพลิงอยู่ที่ 303.650 ล้านดอลลาร์
ทว่าหนึ่งสิ่งที่ทำให้สถานการณ์ทั้งหมดเลวร้ายกว่าเดิมคือ ในช่วงที่ผ่านมา ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างมากดังนั้นสิ่งที่ตามมาคือ สกุลเงินในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาจึงปรับตัวอ่อนค่าลงอย่างหนักตามกลไกตลาดหนึ่งในนั้นคือ ค่าเงินกีบของลาว
นั้นหมายความว่ารัฐบาลของสปป.ลาว จำเป็นต้องใช้เงินกีบมากกว่าเดิมในการแลกเป็นดอลลาร์เพื่อซื้อน้ำมันจากประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งหมดก็ยิ่งกระทบสถานะการเงินของประเทศเพิ่มเติมจากสถานการณ์เงินกีบที่อ่อนค่าอยู่แล้วจากความต้องการเงินกีบที่ลดน้อยลงเพราะวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศ
ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวรัฐบาลของสปป.ลาวจึงจำเป็นต้องหา “เครื่องจักรทางเศรษฐกิจ” ใหม่ที่เข้ามาสร้างกระแสเงินสดให้ประเทศเพื่อแก้ไขปัญหาที่เผชิญอยู่ในปัจจุบันและหนึ่งในนั้นคือการร่วมทุนกับบริษัทอีเอของประเทศไทยในการจัดตั้ง “Super Holding Company” ในฐานะบริษัทระดมทุน (Fund Raising Company) เพื่อเข้ามาหาเงินเข้าสปป.ลาว ด้วยอัตราส่วนการถือหุ้นของอีเอที่ 35% และรัฐบาลของสปป.ลาว 65%
แล้วบริษัทร่วมทุนนี้หาเงินจากอะไร ?
หนึ่งในสิ่งที่ นายสมโภชน์ ให้สัมภาษณ์พิเศษกับกรุงเทพธุรกิจคือ เขาเชื่อว่า สปป.ลาว เป็น “สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย” หรือหมายความว่าเป็นประเทศที่มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขื่อน ซึ่งสิ่งที่จะเข้ามาเป็น “สินค้า” ในการระดมทุนครั้งนี้คือ การสร้างพลังงานสะอาดจากทรัพยากรธรรมชาติทั้งหมดที่ประเทศลาวมีทั้งพลังงานลมและพลังงานน้ำ
ดังนั้น Super Holding Company จะเข้ามาทำหน้าที่ในการบริหารจัดการพลังงานสะอาดของประเทศแบบครบวงจร ทั้งการบริหารจัดการสินทรัพย์ บริหารจัดการจำหน่ายพลังงานในต่างประเทศแบบ Single Gate Way และเป็นบริษัทหลักที่จะใช้ลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดของประเทศ หรือธุรกิจอื่นใดที่เกี่ยวข้องในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหรือรถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในสปป.ลาว
โดยนายสมโภชน์อธิบายเพิ่มเติมว่า ก่อนที่จะก่อตั้งบริษัทร่วมทุนนี้ ทรัพย์สินเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของสปป.ลาวอยู่ภายใต้การดูแลของสององค์กรหลักคือ Laos Holding และ EDL Generation Public Company แต่หลังจากการเจรจา อำนาจการตัดสินใจเกี่ยวกับการบริหารจัดการไฟฟ้า 7 กิกะวัตต์จากทั้งหมด 11 กิกะวัตต์ของลาวจะเข้ามาอยู่ในบริษัทร่วมทุนแห่งนี้
โดยมีบริษัทอีเอเป็นผู้มีอำนาจในการบริหารจัดการอย่างเต็มที่ตลอด 25 ปี อย่างไรก็ตามระยะเวลาของการบริหารโรงไฟฟ้าแต่ละแห่งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าระยะเวลาสัมปทานของบริษัทก่อนหน้าหมดลงเมื่อใดด้วยเช่นกัน
เตรียมจดทะเบียนในตลาดหุ้นต่างประเทศ
โดยขั้นตอนหลังจากนั้นทั้งอีเอ และสปป.ลาวจะนำบริษัทร่วมทุน Super Holding Company เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศภายใน 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค.2567 โดยในเบื้องต้นยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจร่วมกันว่าจะนำเข้าไปจดทะเบียนในประเทศใด
ทว่า นายสมโภชน์ อธิบายว่ากระบวนการนี้เป็นเพียงการทำให้บริษัทดังกล่าวมี “มูลค่าตลาด” ตามหลักเกณฑ์เพื่อที่จะได้ขายสินค้าได้ในราคาที่เหมาะสม และทำให้ชาวต่างชาติรู้จักประเทศลาวในฐานะศูนย์กลางของพลังงานสะอาดมากขึ้น
หลังจากบริษัทร่วมทุนดังกล่าวเริ่มสร้างรายได้ทั้งผ่านการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์และการขายพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานบริสุทธิ์ไปยังต่างประเทศได้แล้ว นายสมโภชน์ยังอธิบายว่าอาจสร้างโมเดลธุรกิจอื่นที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้พลังงานไฟฟ้าจากพลังงานบริสุทธิ์ ไม่ว่าจะเป็นการทำสถานีเก็บกักพลังงาน หรือการขยายการใช้รถยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในประเทศลาวอีกด้วย ซึ่งในอนาคตหากเกิดธุรกิจขึ้นมาใหม่จากบริษัทแม่อย่าง Super Holding Company ก็มีโอกาสที่บริษัทอีเอจะเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วนที่มากขึ้น และเป็นแหล่งรายได้ใหม่ของบริษัท ต่อไป
โดยในขั้นตอนต่อไปบริษัทอีเอจะต้องตั้งบริษัทลูกขึ้นมาเพื่อถือหุ้น Super Holding Company แต่ปัจจุบันยังไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทย่อยนี้มากนัก แต่นายสมโภชน์เชื่อว่าการเข้ามาในประเทศลาวครั้งนี้จะเป็นอุตสาหกรรมใหม่ (New S-Curv) และพอร์ตการลงทุนใหม่ของอีเอที่พร้อมจะเติบโตไปกับสปป.ลาวในอนาคต
ท้ายที่สุด นายสมโภชน์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อ Super Holding Company สามารถสร้างรายได้ขึ้นมาได้สปป.ลาวก็จะมีเม็ดเงินเข้ามาในประเทศเพิ่มมากขึ้นจากเครื่องจักรทางเศรษฐกิจชิ้นใหม่นี้ รวมทั้งก็จะสามารถลดการนำเข้าน้ำมันได้อย่างมีนัยสำคัญ และอาจลดการนำเข้าได้สูงถึง 100% ซึ่งก็จะทำให้ทั้งทุนสำรองระหว่างประเทศและค่าเงินกีบมีเสถียรภาพมากขึ้น ทั้งหมดก็จะนำไปสู่เศรษฐกิจที่มีความมั่นคงต่อไป
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์