สภาพคล่องล้น ‘นอนแบงก์’ จีน ทำเงินท่วมหุ้นกู้เอกชน ความหวังดันศก.มังกรฟื้น

สภาพคล่องล้น ‘นอนแบงก์’ จีน  ทำเงินท่วมหุ้นกู้เอกชน ความหวังดันศก.มังกรฟื้น

สภาพคล่องล้นตลาดการเงินจีน หลัง PBOC ผ่อนคลายนโยบายการเงิน ทำ "นอนแบงก์" ฝ่าวิกฤติสภาพคล่องในช่วงปลายเดือนได้อย่างราบรื่น เหตุประชาชนแห่ถอนเงินออมจากแบงก์พาณิชย์สู่กองทุนรวมตราสารหนี้และกองทุนรวมผลตอบแทนสูงที่นอนแบงก์เสนอขาย

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานวันนี้ (29 พ.ค.) ว่า กระแสเงินสดในตลาดเงินของจีนปรับตัวสูงขึ้น จนแม้กระทั่งบริษัทที่เคยประสบปัญหาขาดสภาพคล่องยังสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่น

สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (Non-bank) เช่น บริษัทจัดการสินทรัพย์ สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างราบรื่นโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนพ.ค. เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมระยะสั้นคงที่อยู่ในระดับต่ำ จนกระทั่งประชาชนจีนเริ่มนำเงินไปเก็บไว้ในสถาบันการเงินที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าการฝากเงินแบบปกติ เช่น กองทุนรวมตราสารเงินและกองทุนรวมผลตอบแทนสูงที่เสนอโดยสถาบันแบบนอนแบงก์

สภาพคล่องล้น ‘นอนแบงก์’ จีน  ทำเงินท่วมหุ้นกู้เอกชน ความหวังดันศก.มังกรฟื้น อัตราการทำธุรกรรมซื้อคืนแบบ 7 วันในตลาดซื้อขายจีน

ด้านบทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า ในมุมของนโยบายรัฐ พัฒนาการดังกล่าวอาจเป็นสิ่งที่น่ายินดี เนื่องจากสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ที่มีสภาพคล่องระดับสูงจะเริ่มซื้อหุ้นกู้เอกชนมากกว่าพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งจะช่วยสนับสนุนภาคเอกชนได้มากขึ้น และจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจจีนที่ประสบปัญหาอุปสงค์อ่อนแอเนื่องจากความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจที่ตกต่ำและวิกฤตการณ์ในภาคอสังหาริมทรัพย์

หวง เว่ยผิง และทีมนักวิเคราะห์จากอินดัสเทรียว ซีเคียวริตีส์ (Industrial Securities) ระบุในบันทึกถึงลูกค้าฉบับล่าสุดว่า

"แนวโน้มของนักลงทุนรายย่อยที่โยกย้ายเงินสดไปยังสถาบันการเงินนอกภาคธนาคารยังคงดำเนินต่อไป และยังมีช่องทางให้สถาบันเหล่านี้ซื้อหุ้นกู้เอกชนได้เพิ่มเติม"

พร้อมระบุเสริมว่า "ดังนั้นตั้งแต่ช่วงเดือนพ.ค.ถึงก.ค.จึงยังคงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการลงทุนในบอนด์ระยะยาว"

โดยปกติแล้ว สถาบันแบบนอนแบงก์มักประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องชั่วคราวในช่วงสิ้นเดือนหรือสิ้นไตรมาส เนื่องจากผู้ให้กู้มักจะเก็บเงินสดไว้เพื่อปรับปรุงตัวเลขบัญชีให้ดูดี หรือ Window-Dress เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการตรวจสอบของหน่วยงานกำกับดูแล และปัญหาการขาดสภาพคล่องนี้ยังอาจทวีความรุนแรงขึ้นหากขาดความเชื่อมั่นในการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันสถานการณ์กลับเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามเนื่องจากประชาชนชาวจีนถอนเงินออมจากธนาคารมากที่สุดเป็นประวัติการณ์เนื่องจากไม่ต้องการรับดอกเบี้ยเงินฝากในระดับที่ต่ำมาก ดังนั้นพวกเขาจึงนำเงินเกือบทั้งหมดไปลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่บริหารจัดการโดยบริษัทหลักทรัพย์เพื่อผลตอบแทนที่สูงกว่า
 

ทั้งนี้ ตามหลักการแล้วสถาบันการเงินแบบนอนแบงก์สามารถสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นให้นักลงทุนได้จากบริหารความมั่งคั่งผ่านการซื้อหุ้นกู้เอกชนและพันธบัตรที่ออกโดยนิติบุคคลเพื่อการจัดหาเงินทุนของรัฐบาลท้องถิ่น (LGFVs) ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล ในขณะที่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่มักจะนำเงินฝากของประชาชนไปซื้อพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรของธนาคารของรัฐเพราะมีความมั่นคงสูงกว่า 

การเคลื่อนย้ายของเงินทุนครั้งนี้เกิดขึ้นจากสภาพคล่องของระบบธนาคารที่เพิ่มสูงขึ้นจากการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศจีน (PBOC) ประกอบกับในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลจีนยังเร่งการกระตุ้นทางการคลังเพิ่มเติมผ่านการออกพันธบัตรของรัฐบาลท้องถิ่นจนแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน เมื่อพ.ค.ที่ผ่านมา 

ด้าน หลิว อวี้ และทีมนักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์หัวซี ซีเคียวริตีส์ (Huaxi Securities) ระบุในบันทึกถึงลูกค้าว่า

"ยังมีช่องว่างที่ผลตอบแทนจากผลิตภัณฑ์บริหารความมั่งคั่งจะเติบโตต่อไปอีกมหาศาล โดยสภาพคล่องส่วนใหญ่จะไหลเข้าสู่เศรษฐกิจจริงในที่สุดจากการที่นอนแบงก์เริ่มซื้อหุ้นกู้เอกชน"

นอกจากนี้ ข้อมูลจากรัฐบาลจีนเผยว่า อุปสงค์หุ้นกู้เอกชนจากฝั่งนอนแบงก์ส่งผลให้ส่วนต่างผลตอบแทนหุ้นกู้เกรดการลงทุนรุ่น 5 ปีแคบลงเมื่อเทียบกับพันธบัตรรัฐบาลที่รุ่นใกล้เคียงกัน

สภาพคล่องล้น ‘นอนแบงก์’ จีน  ทำเงินท่วมหุ้นกู้เอกชน ความหวังดันศก.มังกรฟื้น ส่วนต่างระหว่างยีลด์หุ้นกู้และพันธบัตรรัฐบาลแคบลง

นอกจากนี้ ส่วนต่างผลตอบแทนระหว่างพันธบัตรแอลจีเอฟวี ระดับ AA อายุ 3 ปีและพันธบัตรรัฐบาลที่มีอายุสอดคล้องกันร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

เมื่อไม่นานมานี้ รัฐบาลปักกิ่งพยายามคานแรงซื้อพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว โดยเตือนว่าอาจมีการปรับทิศทางทางการเงิน และเปิดเผยว่าจะแก้ไขความไม่สอดคล้องกันระหว่างภาพรวมเศรษฐกิจในอนาคตและราคาพันธบัตรในท้องตลาด นอกจากนี้ การออกพันธบัตรพิเศษของจีนอาจระบายสภาพคล่องจนส่งผลให้ผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น

ขณะที่บทวิเคราะห์ของบลูมเบิร์ก เผยว่า ผู้ซื้อหุ้นกู้เอกชนและพันธบัตรแอลจีเอฟวีต้องลงทุนอย่างระมัดระวังจากปัจจัยที่กล่าวไปข้างต้น เนื่องจากสินทรัพย์เหล่านั้นถูกกำหนดราคาตามพันธบัตรรัฐบาล อย่างไรก็ดี ในขณะนี้อุปทานเงินสดที่มีมากน่าจะช่วยกดดันผลตอบแทนพันธบัตรให้อยู่ในระดับต่ำ

"สภาวะสภาพคล่องที่คลายตัวสำหรับนอนแบงก์น่าจะยังคงอยู่ต่อไปในระยะหนึ่ง"

ชี่ เฉิง นักวิเคราะห์ตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์ โอเรียนต์ ซีเคียวริตีส์ (Orient Securities) กล่าว พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า "โดยรวมแล้ว พันธบัตรระยะสั้นจะเพอร์ฟอร์มได้ดีกว่าพันธบัตรระยะยาว และหุ้นกู้เอกชนจะได้ผลตอบแทนดีกว่าพันธบัตรรัฐบาล"

อ้างอิง: Bloomberg