เครดิตบูโรชี้ รัฐจ่อช่วยลูกหนี้รหัส 21 แต่ลูกหนี้กลับมาสู่ระบบไม่ง่าย!
เครดิตบูโรชี้ รัฐจ่อช่วยลูกหนี้รหัส 21 จากผลกระทบโควิด แต่ลูกหนี้กลับมาสู่ระบบไม่ง่าย! เหตุแบงก์ตั้งการ์ดปล่อยกู้เข้ม
นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด หรือเครดิตบูโร โพสต์ผ่าน Facebook ส่วนตัวว่า ล่าสุด ผลจากการประชุมครม.เศรษฐกิจเมื่อวันที่ 10.06.2567 ซึ่งมีการให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนสั้นๆว่าทางการมีแนวคิดจะให้ความช่วยเหลือบัญชีสินเชื่อที่เป็นหนี้เสีย(ค้างชำระเกิน 90วัน) เนื่องจากสถานการณ์ไม่ปกติ
ซึ่งมันก็มีอยู่เรื่องเดียวคือการระบาดของ covid-19ในช่วงปี 2563-2565
บัญชีหนี้เสียประเภทนี้หรือบัญชี NPL รหัส 21ที่พูดถึงกัน ซึ่งกู้โดยบุคคลธรรมดา มียอดคงค้างเป็นตัวเงิน ณ ไตรมาส 1/2567 ก็ประมาณ 4แสนล้านบาทครับ ที่สำคัญคือถ้านับเป็นจำนวนบัญชีแล้วก็จะมีอยู่ประมาณ 4.3ล้านบัญชี
ทีนี้ถ้าเราเอา 4.3ล้านบัญชีมาคลี่ออกดูจะพบว่า 4.2ล้านบัญชีมันเกิดเป็นหนี้เสียในปีไหนบ้าง(มองย้อนกลับไปในอดีต) ซึ่งข้อมูลมันบอกว่า
2.5แสนบัญชีเป็นหนี้เสียปี 2563
7.6แสนบัญชีเป็นหนี้เสียปี 2564
1.23ล้านบัญชีเป็นหนี้เสียปี 2565
1.88ล้านบัญชีเป็นหนี้เสียปี 2566
และ 1แสนบัญชีเป็นหนี้เสียในไตรมาส 1ปี 2567
มองจากตัวเลขจะเห็นว่าเกิดหนี้เสียเพิ่มขึ้นสะสมมาตลอดในช่วงระหว่างการระบาดคือ 2563-2565 พอโควิดจบแต่คนมีหนี้หลังโควิดมันไม่จบ ตัวเลขจำนวนบัญชีหนี้เสียสะสมเพิ่มระดับล้านเกือบสองล้านบัญชีในปี 2566
ขณะที่กติกาการปรับโครงสร้างหนี้บอกว่า ลูกหนี้จะปรับโครงสร้างหนี้ได้ต้องมีศักยภาพ ย้ำว่าต้องมีศักยภาพ ศักยภาพคือต้องมีรายได้มากพอ มั่นคงพอ เพียงพอที่จะชำระหนี้ได้ตามตารางใหม่ของสัญญาปรับโครงสร้างหนี้
ขณะเดียวกันก็มีกติกาทางบัญชีในการจัดชั้นสถานะหนี้เข้มข้นเพิ่มอีกว่า ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในความเสี่ยงด้านเครดิต(SICR)เช่น ค้างชำระเกิน 31วันหรือหนึ่งงวด ต้องจัดชั้นกันสำรองทันทีในสถานะ SM.หรือกลายเป็นหนี้ที่กล่าวถึงเป็นพิเศษ และการจะออกจาก SM.ได้ บัญชีสินเชื่อนั้นต้องมีการชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขต่อเนื่องอย่างน้อย 3งวดติดกัน
บัญชีสินเชื่ออย่างน้อยหลายล้านบัญชีนี้สามอันดับแรกอยู่ในความดูแลของธนาคารพาณิชย์ 1.3แสนล้านบาท อยู่กับสถาบันการเงินของรัฐ 1.7แสนล้านบาท อยู่กับเช่าซื้อลีสซิ่ง 5.5หมื่นล้านบาท ขอร้องว่าเวลาเสนอข้อมูลอย่าเอาแต่ %มาแสดงเพื่อบอกว่าองค์กรใต้การกำกับของฉันมีจำนวนบัญชีน้อย ยอดหนี้มันก็พอๆกันนะครับ
มาตรการของทางการที่จะช่วยให้ลูกหนี้เจ้าของบัญชีหนี้เสียรหัส 21 นอกจากเร่งปรับโครงสร้างหนี้อย่างรับผิดชอบ การขายหนี้ก้อนนี้ให้ AMC การตัดหนี้สูญแบบตัดใจไม่ตามหนี้ต่อ หรือจะมีการให้มีการหยุดส่งข้อมูลและลบข้อมูลออกจากระบบ
การจะให้เจ้าของบัญชีเหล่านี้กลับเข้ามายื่นขอกู้ได้ในเวลานี้ไม่หมูเพราะ
1.กติกาการปล่อยกู้เข้ม
2.กติกาการปรับโครงสร้างหนี้นั้นเงื่อนไขต้องมีศักยภาพ มาตรการปรับโครงสร้างหนี้แบบยืดหยุ่น(มาตรการฟ้า-ส้ม) ก็ไม่มีแล้ว ทุกอย่างว่ากันตามปกติ
3.กติกาทางบัญชี การจัดชั้นการกันสำรองเข้มข้นเหมือนก่อนเกิดโควิดระบาด
4.สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่โตต่ำ กระจายไม่ทั่วถึง และมรการแข่งขันค้าขายที่รุนแรง
5.ต้องเข้าอกเข้าใจลูกหนี้กลุ่มนี้ว่าเขาเป็นหนี้เสียเพราะสถานการณ์ ซึ่งเป็นไปตามคำนิยามของธปท. เขาไม่ได้อยากเป็นหนี้เสีย แต่การปิดตลาด สั่ง Lock down ปิดบ้านปิดเมือง สนามบินปิด งดการพบปะกันต่อหน้า ห้ามออกจากบ้าน ผลมันคือทำให้ค้าขายไม่ได้ ยังจำกันได้ใช่มั้ย ตอนนี้เราใช้กติกา มาตรฐานแบบปกติ แต่คนที่เจอโรคระบาด มันมีภาระตามมาหลังวิกฤติไม่ปกติอ่ะครับ
ดอกเบี้ยเงินกู้มันเดินตลอดเพราะมันไม่รู้จักโรคระบาด ต้นเงินก็ไม่ได้ลด นี่ยังไม่นับเรื่องเถียงกันว่าคิดดอกเบี้ยตอนพักการชำระหนี้มันคิดกันอย่างไรระหว่างคนในองค์กรเดียวกัน คิดจากยอดที่พักการชำระหนี้ หรือคิดจากยอดใหญ่ เป็นต้น
สุดท้ายครับ นี่คือข้อมูลบัญชีสินเชื่อที่บุคคลธรรมดากู้และกลายเป็นหนี้เสียเพราะโควิดตามคำนิยามของธปท.ซึ่งอยู่ในนโยบายของรัฐบาลที่จะเข้ามาแก้ไขครับ
เรียนมาให้ได้ทราบข้อมูลตามที่สื่อมวลชนสอบถามมานะครับ