'กรุงศรี' จัดงาน Japan-Asean Startup Business Matching Fair 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

'กรุงศรี' จัดงาน Japan-Asean Startup Business Matching Fair 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

"กรุงศรี" หนุนสตาร์ทอัพอาเซียนโตไกล จัดงาน "Japan-Asean Startup Business Matching Fair 2024" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

ด้วยความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างระบบนิเวศของสตาร์ทอัพให้แข็งแกร่ง เครือข่ายพันธมิตรอาเซียน-ญี่ปุ่น ตอกย้ำความสำเร็จในการจัดงานสตาร์ทอัพครั้งใหญ่ในชื่อ "Japan-Asean Startup Matching Fair 2024" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) จัดงานเจรจาจับคู่สตาร์ทอัพสำหรับผู้ประกอบการไทยที่ต้องการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งภายในงานได้รับความร่วมมือทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจชั้นนำ อาทิ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม (The Ministry of Economy, Trade and Industry: METI) ประเทศญี่ปุ่น "Techo Startup Center" หน่วยงานภายใต้กระทรวงเศรษฐกิจและการคลังของประเทศกัมพูชา และศูนย์นวัตกรรมแห่งชาติเวียดนาม หรือ NIC

โอตากะ มาซาโตะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เป็นประธานในพิธี กล่าวเปิดงานในครั้งนี้ว่า การส่งเสริมระบบนิเวศของสตาร์ทอัพถือเป็นหนึ่งในพันธกิจสำคัญของทางรัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้แผนปฏิบัติการร่วมว่าด้วยหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่นในระยะ 5 ปี มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียวของญี่ปุ่น และร่วมผลักดันเศรษฐกิจไทยสู่การพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวม โดยคำนึงถึงความยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ทางรัฐบาลญี่ปุ่นมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนการจัดงานใหญ่ระดับภูมิภาค ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ได้เป็นแบบรูปธรรมของความร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานส่งเสริมดิจิทัล หน่วยงานภาครัฐและเอกชนในหลายประเทศทั้งญี่ปุ่น ไทย และอาเซียน โดยมีความมุ่งหวังที่จะเห็นการเติบโตของธุรกิจสตาร์ทอัพ และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในภูมิภาค

\'กรุงศรี\' จัดงาน Japan-Asean Startup Business Matching Fair 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

เคนอิจิ ยามาโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรี มีความุ่งมั่นที่จะร่วมเสริมสร้างระบบนิเวศของสตาร์ทอัพให้แข็งแกร่ง ผ่านการสนับสนุนด้านเงินทุน ความรู้เทคโนโลยี และข้อมูลธุรกิจต่างๆ อีกทั้งยังช่วยเปิดเวทีสร้างโอกาสทางการตลาดให้กับสตาร์ทอัพ เพื่อดึงดูดนักลงทุนเข้ามาในภูมิภาค ซึ่งการจัดงานเจรจาจับคู่ธุรกิจสตาร์ทอัพในวันนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่สองแล้ว มีสตาร์ทอัพดาวรุ่งจากหลากหลายกลุ่มธุรกิจกว่า 60 ราย จาก 6 ประเทศเข้าร่วมงาน

\'กรุงศรี\' จัดงาน Japan-Asean Startup Business Matching Fair 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

นอกจากนี้ เฉพาะสตาร์ทอัพสาย ESG ที่มีเทคโนโลยีช่วยลดคาร์บอน หรือแม้แต่โซลูชันในการทำโรงงานอัตโนมัติ ซึ่งจะเป็นอีกส่วนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการตามแนวทางความยั่งยืนได้ดียิ่งขึ้น และด้วยความร่วมมือของพันธมิตรอาเซียน ญี่ปุ่น และเครือข่าย "MUFG" นำมาสู่ความสำเร็จอย่างล้นหลามในการจัดงานเจรจาจับคู่ธุรกิจสตาร์ทอัพที่ใหญ่ในอาเซียน ซึ่งสร้างโอกาสในการจับคู่ธุรกิจกว่า 400 คู่ ภายในวันเดียว

ภายในงาน "Japan-Asean Startup Business Matching Fair 2024" แบ่งออกเป็นสองส่วนด้วยกัน ได้แก่ ส่วนของการนำเสนอแผนงานและแผนธุรกิจ การจับคู่เจรจาธุรกิจ หรือ Business Matching การจัดแสดงบูธมีสตาร์ทอัพเข้าร่วมกว่า 60 ราย มีกิจกรรมเวิร์กช็อปที่จัดขึ้นโดยทีมที่ปรึกษาทางธุรกิจ "Krungsri ASEAN LINK" ให้คำแนะนำปรึกษาสำหรับผู้ที่สนใจ และต้องการขยายธุรกิจในอาเซียน และอีกส่วนคือการฟังเรื่องราวประสบการณ์ของสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จในอาเซียนหลายประเทศ ทั้งเวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย และอินโดนีเซีย

อย่าง "กัมพูชา" มีสตาร์ทอัพแอปพลิเคชัน "NHAM24" Super App ชั้นนำที่มีผู้ใช้งานมากกว่า 1 ล้านคน มีไรเดอร์ในระบบกว่า 10,000 ราย ให้บริการครอบคลุมตั้งแต่ Food Delivery บริการเรียกรถรับส่ง ช้อปปิ้ง ท่องเที่ยว จนถึงการซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มครบจบในแอปฯ เดียว "NHAM24" ได้มีการวางจุดยืนตนเองเป็น "Q-Commerce" มากกว่า "E-Commerce" โดย "Q" ย่อมาจาก "Quick" เน้นการบริการที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด หวังเป็นส่วนสำคัญ-ยกระดับในการสร้าง Ecosystem "Digital-First" ในกัมพูชาได้ดียิ่งขึ้น

ด้าน "เวียดนาม" นำเสนอสตาร์ทอัพ B2B ชื่อ "Karavan" แพลตฟอร์มที่จะเข้ามาแก้ Pain Point ของบรรดาธุรกิจค้าปลีก เชื่อมโยงผู้ประกอบการกับร้านขายของชำ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และธุรกิจ SME อีกมากมาย ครอบคลุมมากกว่า 50,000 ราย จากทุกพื้นที่ มีการเปรียบเทียบราคาสินค้าเดียวกันให้ผู้ใช้งานได้เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุด โดยเน้นไปที่กลุ่มสินค้าหมวด FMCG หรือสินค้าเพื่อการอุปโภคบริโภคเป็นหลัก รวมถึงสินค้าเพื่อธุรกิจ HORECA หรือธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และคาเฟ่จัดเลี้ยง วางเป้าปี 2567 เติบโตใกล้เคียง 65% ของ GDP ประเทศ

สุดท้ายคือสตาร์ทอัพจาก "อินโดนีเซีย" ชื่อ "Ralali" แพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานกว่า 1.9 ล้านคน และมีร้านค้าเกือบ 170,000 ราย เป็นผู้นำด้าน "Tech Enabler" แพลตฟอร์ม B2B จากอินโดนีเซีย มีสินค้าที่หลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม เป็นผู้ผลิตสินค้ารายใหญ่ที่สามารถเชื่อมต่อร้านขายส่ง ตัวแทนจำหน่าย และผู้แปรรูปสินค้า ได้ครบวงจร มีแผนขยายความร่วมมือร่วมในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมทาน เจาะกลุ่มธุรกิจ F&B ในไทยเพิ่มเติมอีกด้วย

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ยังมีแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อ "Krungsri Business Link" ให้บริการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจเพื่อลูกค้า เป็นบริการที่ธนาคารฯ ริเริ่มขึ้นเพื่อที่สนับสนุนธุรกิจในการขยายตลาดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ประกอบด้วย 1.) บริการจับคู่ธุรกิจ 2.) การสร้างพื้นที่ในการนำเสนอสินค้าและบริการ และ 3.) การหาพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อความร่วมมือในด้านอื่นๆ ทางออนไลน์ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ผ่านทางเครือข่ายที่เชื่อถือได้ของกรุงศรี และของสถาบันการเงินในกลุ่มมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียลกรุ๊ป ทั้งบริษัทไทยและต่างประเทศกว่า 5,000 บริษัทบนแพลตฟอร์ม เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการชาวไทยขยายโอกาสธุรกิจในอาเซียนและทั่วโลกได้อย่างมั่นใจ

การจัดงานครั้งนี้ เป็นหมุดหมายสำคัญที่จะเชื่อมโยงความต้องการของลูกค้าทั่วทั้งภูมิภาคอาเซียน เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ทำให้ธุรกิจมีความยั่งยืน เป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้บริโภคชาวไทยและพันธมิตรอื่นๆ ทั่วทั้งอาเซียนได้อย่างแท้จริง

\'กรุงศรี\' จัดงาน Japan-Asean Startup Business Matching Fair 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 \'กรุงศรี\' จัดงาน Japan-Asean Startup Business Matching Fair 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 \'กรุงศรี\' จัดงาน Japan-Asean Startup Business Matching Fair 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 \'กรุงศรี\' จัดงาน Japan-Asean Startup Business Matching Fair 2024 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2