ลุ้นปีนี้ ‘ทองไทย’ แตะ 4.5 หมื่นบาท “ต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนหลายเงื่อนไข”    

ลุ้นปีนี้ ‘ทองไทย’ แตะ 4.5 หมื่นบาท “ต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนหลายเงื่อนไข”    

วานนี้ (17 ก.ค.)  “ราคาทองคำ”   เปิดตลาด ปรับขึ้นพรวดเดียว 500 บาท ทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของทองคำในประเทศ 42,150 บาท จากในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมานี้ทดสอบระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่  42,000บาท เนื่องจากการปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงของ Gold Spot 

ระหว่างวัน “ราคาทองคำในประเทศ” ยังเคลื่อนไหว “ความผันผวนหนัก”  ปรับตัวขึ้น-ลงถึง 13 ครั้ง  ณ 15.00 น. ปรับขึ้น 300 บาท  ตลอดทั้งเดือนก.ค. ยังปรับขึ้น 1,450 บาท 

แนวโน้ม ราคาทองคำ ในปีนี้ ยังสามารถปรับตัวขึ้นต่อไปแตะ “45,000 บาท” ช่วงที่เหลือของปีนี้มีโอกาสมาน้อยแค่ไหนนั้น  “กรุงเทพธุรกิจ” รวบรวมมุมมองของบรรดา “กูรูทองคำ” ต่างเห็นตรงกันว่า “ยังต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนหลายเงื่อนไข”    

ลุ้นปีนี้ ‘ทองไทย’ แตะ 4.5 หมื่นบาท “ต้องอาศัยแรงขับเคลื่อนหลายเงื่อนไข”    

 

 “พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (YLG) มองว่า ราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นทดสอบระดับดังกล่าว “ช้า หรือ เร็ว” ยังขึ้นกับปัจจุบันพื้นฐานถึง 4 แรงขับเคลื่อน  คือ 

1. ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวอ่อนค่าอยู่ในโซน 36 บาทต่อดอลลาร์ 

2.การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ในปี 2567 ที่ระดับ 0.5% หรือ ลดดอกเบี้ยตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป

3.ดีมานด์ที่แข็งแกร่งจาก ธนาคารกลางทั่วโลก ท่ามกลางกระแส De-Dollarization 4.แรงซื้อในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย จากทั้งความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และความผันผวนการเลือกตั้งสหรัฐ  

 “ถ้าโมเมนตัมทองคำแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจนขึ้นทดสอบราคาเป้าหมายของปี 2568 ที่ระดับ 2,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากคำนวณเป็นราคาทองคำแท่ง 96.5% ด้วยสมมติฐานที่ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ที่โซน 35.80-36 บาทต่อดอลลาร์ จะทำให้ทองคำแท่ง 96.5% มีโอกาสขึ้นไปถึงระดับ 45,000 บาทในปีหน้ามากกว่า”

ขณะที่มุมมองต่อ ราคาทองต่างประเทศ (Gold Spot) คาดว่าจะแกว่งตัวในทิศทาง Sideway up จากราคาค่อยๆ ยกระดับต่ำสุดขึ้นมาได้ 5 เดือนติดต่อกัน ประกอบกับราคากำลังทดสอบระดับสูงสุดเป็นประวัติกาลอีกครั้งที่ระดับ 2,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ มองแนวรับ 2,368 -2,277 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นระดับต่ำสุดของเดือน พ.ค. ขณะที่ แนวต้านยังเป้าหมายเดิมที่ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ประเมินแนวต้านถัดไปที่ 2,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มองเป็นเป้าหมายของปี 2568

กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ”  ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท MTSGold แม่ทองสุก คาดการณ์ว่า ในปลายปีนี้ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปใกล้เคียงบริเวณ 45,000 บาท  มีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจาก การลดดอกเบี้ยของเฟด 

ขณะที่มีปัจจัยกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินบาท เห็นได้ว่าในช่วงตั้งแต่ต้นเดือนก.ค.ถึงปัจจุบันค่าเงินบาทแข็งค่าลงมาอย่างมากถึง 80 สตางค์ทำให้ราคาทองไทยไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้มากตามราคาทองคำตลาดโลก 

“แนวโน้มขาขึ้นในช่วงปลายปีนี้ราคาทองคำตลาดโลกน่าจะทำ New High  ที่ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้จาก High เดิมที่ระดับ 2,435 ดอลลาร์ต่อออนซ์ราคาทองไทยน่าจะทำ New High ด้วยเช่นกันแต่อาจจะอยู่ที่ระดับ 43,000 บาท”