YLG แนะ'ทองคำ'มีโอกาสทำกำไรระยะสั้น มั่นใจปีนี้เห็น 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์

YLG แนะ'ทองคำ'มีโอกาสทำกำไรระยะสั้น มั่นใจปีนี้เห็น 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์

YLG แนะทองคำมีโอกาสทำกำไรระยะสั้น หลังย่อตัวจากภาวะ Sell-off รอสร้างฐาน ระยะยาวจะกลับมาขึ้นขานรับสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางวิกฤต พร้อมคงเป้าหมายมั่นใจปีนี้ทองคำโลกได้เห็นที่ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนทองคำในประเทศให้เป้าหมายที่ 42,150 บาท

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด (YLG) ตัวแทนซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ปรับลดลงมา จนล่าสุดแกว่งตัวอยู่ที่โซน 2,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อทรอยออนซ์ นั้นเป็นไปตามภาพรวมทั่วโลกที่นักลงทุนกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐที่อาจเกิดขึ้น จากความกังวลต่อธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่แม้ว่าส่งสัญญาณการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายแต่อาจจะลดดอกเบี้ยช้าเกินไปจนกระทบเศรษฐกิจ  

โดยเฉพาะล่าสุดตัวเลขอัตราการว่างงานที่ดีดขึ้นสู่ระดับ 4.3% เป็นตัวกระตุ้นคาดการณ์การเกิด Recession ซึ่งบ่งชี้ว่าเป็นจุดเริ่มต้นของสัญญาณอันตราย ดังนั้นนักลงทุนจึงปิดความเสี่ยงด้วยการเทขายสินทรัพย์ทุกประเภทออกมาเพื่อถือครองเงินสด

อย่างไรก็ดีในส่วนของตลาดทองคำนั้น ด้วยภาพดังกล่าว ในช่วงที่เกิดการ Panic ราคาทองคำก็มีการแกว่งตัวสร้างฐานในระยะสั้นเช่นกัน  โดยนักลงทุนสามารถใช้จังหวะนี้หาโอกาสทำกำไรได้จากการลงทุนผ่านตลาดฟิวเจอร์ส ที่สามารถสร้างกำไรได้ทั้งภาวะตลาดขาขึ้นและขาลง  

สำหรับในระยะสั้นวายแอลจีแนะนำเปิดสถานะขายเก็งกำไร หากไม่ผ่านแนวต้าน 2,432-2,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์  และทยอยปิดทำกำไร หากราคาปรับตัวลงทดสอบแนวรับ 2,372-2,353 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

โดยนักลงทุนสามารถเลือกลงทุนในตลาดฟิวเจอร์สได้ทั้งการลงทุนในประเทศผ่าน TFEX ส่วนการลงทุนต่างประเทศนั้น YLG เพิ่มทางเลือกให้นักลงทุนด้วยการจับมือกับ CME Group ตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ครอบคลุมบริการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าครบวงจร เพิ่มทางเลือกให้ที่สนใจลงทุนในตลาดล่วงหน้าที่มีสินค้าให้เลือกลงทุนอย่างครบถ้วน ทั้งสินค้าโภคภัณฑ์ สกุลเงิน หุ้น ไปจนถึงสินทรัพย์ดิจิทัล อย่างไรก็ตามการลงทุนมีความเสี่ยง นักลงทุนต้องศึกษาให้เข้าใจก่อนการลงทุน สำหรับนักลงทุนที่สนใจการลงทุนทองคำในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าทุกรูปแบบ  

ส่วนระยะยาวนั้น เมื่อตลาดหาย Panic นักลงทุนจะเริ่มกลับเข้าสู่การลงทุน เช่นเดียวกับช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่ในช่วงแรกทองคำถูกขายลงมา ก่อนจะพุ่งขึ้นต่อเนื่องในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย  ดังนั้นในระยะถัดไปนักลงทุนจึงมีโอกาสกลับเข้าซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยก่อนเป็นอันดับแรก เช่น ทองคำ พันธบัตรรัฐบาล  จึงมองว่าแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาทองคำระยะยาวจะยังเติบโตได้ต่อ 

นอกจากนี้ ในอดีตเกือบทุกครั้งที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจราคาทองคำจะปรับตัวขึ้น และภายหลังผ่านพ้นวิกฤต ทองคำก็ยังสามารถปรับตัวขึ้นได้ต่อ เช่น ในช่วงปี 2000 วิกฤต “Dot-Com” ตลาดหุ้น NASDAQ ปรับตัวลดลงอย่างมาก แต่ตลาดทองคำกลับเติบโตอย่างร้อนแรง โดยช่วงปี 2001 – 2006 ทองทำราคาเพิ่มขึ้น 6,000 – 7,000 บาทต่อบาททองคำ ไปแตะที่ระดับ 12,000 บาทบาทต่อบาททองคำ

 และในช่วงปี 2008 ที่เกิดวิกฤตซับไพร์ม ทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวจาก 15,000 บาทต่อบาททองคำ ไปที่ 27,000 บาท ในปี 2011  ขณะที่วิกฤตโควิด -19 ก็ได้เห็นราคาทองคำพุ่งไปแตะระดับ 32,000 บาทต่อบาททองคำ

อย่างไรก็ตามในปีนี้วายแอลจียังคงเป้าหมายราคาทองคำไว้ที่ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนทองคำทอง 96.5% ในประเทศ มองสามารถขึ้นทดสอบระดับ 42,150 บาทได้อีกครั้ง หากค่าเงินบาทอ่อนค่าอยู่ในกรอบ 35.65-36.00 บาทต่อดอลลาร์

ล่าสุดวายแอลจีได้ออกโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าที่เปิดบัญชีกับ YLG Futures รับสิทธิ์ใช้งาน trading View Essential Plan ที่จะมอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้า 5 ด้าน 1.กราฟและอินดิเคเตอร์ครบครัน รวมถึง Volume Profile 2.เครื่องมือวาดรูปและฟีเจอร์ทางเทคนิค 3.การแจ้งเตือนราคา 4.ไอเดียเทรดจากคอมมูนิตี้ 5.ไม่มีโฆษณาและอีกมากมาย