จับตา ‘ทองคำ’ ระยะสั้น ราคายังเผชิญ ‘แรงขาย’ กดดัน
“ราคาทองคำ” พุ่งทะลุเป้าหมายเดิมที่ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จนขึ้นทำ All Time High ที่ 2,532 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ช่วงกลางเดือนส.ค.67 และหลังจากนั้นราคาทองคำ “ถูกแรงขายทำกำไร” สลับเข้ามาบ้างช่วงที่ผ่านมานี้ และราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่แถวบริเวณ 2,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ตลาดรอจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รอบเดือนก.ย.นี้ ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย จะช่วยให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้น
แนวโน้มราคาทองคำ จะเป็นอย่างไร “กรุงเทพธุรกิจ” เปิดมุมมอง “กูรูทองคำ” ฉายภาพปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ และกรอบราคาทองคำจากนี้จนถึงสิ้นปี 2567 เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้กับนักลงทุนพิจารณา
“จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” นายกสมาคมค้าทองคำ ให้มุมมองว่า ช่วงนี้ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ 2,475-2,525 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อได้อีก และสิ้นปีนี้คาดแตะระดับ 2,600 ดอลลาร์ต่อออนซ์ยังเป็นไปได้
เนื่องจากเฟดปรับลดลงดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย.ชัดเจนขึ้น แต่ราคาทองคำจะปรับขึ้นได้อีกแค่ไหน ขึ้นกับว่าเฟดจะลดดอกเบี้ยมากน้อยแค่ไหนความคาดหวังของตลาดมีตั้งแต่ลด 0. 25% และลด 0.5% ต้องรอติดตามผลการประชุมเฟด
ขณะที่ “ทองคำในประเทศ” ยังถูกกดดันจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น ทำให้ราคาทองคำปรับลดลง ตั้งแต่ต้นปีถึงตอนนี้ เงินบาทแข็งค่าขึ้นมากพอสมควร 4-5% สลับย่อตัวอ่อนค่าบ้าง ทำให้ราคาทองคำถูกลงไปราว 1,000 บาท ซึ่งหากเงินบาทแข็งค่าขึ้น 1 บาท เท่ากับ ราคาทองคำลดลง 1,000 บาท ,เงินบาทแข็งค่าขึ้น 2 บาท เท่ากับ ราคาทองคำลดลง 2,อย่างไรก็ตาม มองกรอบทองคำในประเทศสิ้นปีนี้ แนวรับ 41,000 บาท แนวต้าน 45,000 บาท ยังต้องรอดูนโยบายภาครัฐ ยังมีความไม่แน่นอน หากสนับสนุนการขยายตัวเศรษฐกิจไทย ดอกเบี้ยนโยบายทรงตัว และเงินบาทแข็งค่าหลุด 34 บาทต่อดอลลาร์ กดดันราคาทองคำ
“พวรรณ์ นววัฒนทรัพย์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ YLG กล่าวว่า หากราคาทำย่อตัวจำกัด และยืนอยู่ที่โซนแนวรับ 2,450 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ มองราคาจะกลับมาค่อยๆ ปรับตัวขึ้นได้ต่อสู่กรอบเป้าหมายในปี 2567 ที่มีโอกาสขึ้นไปทำ All Time High อีกครั้งที่ระดับ 2,563 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป้าถัดไประดับ 2,650 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่ทองคำแท่ง 96.5% ในประเทศ หากสามารถยืนแนวรับที่ 40,250 บาทต่อบาททองคำได้ มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้เช่นกัน ที่กรอบแนวต้าน 42,100-43,500 บาทต่อบาททองคำ
ปัจจัยบวกต่อทองคำ การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของเฟด ณ ปัจจุบัน ตลาดได้เปลี่ยนการตั้งคำถามว่า “เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยหรือไม่” กลายไปเป็น “เฟดจะปรับลดดอกเบี้ยลงมากเท่าใด”
สะท้อนมุมมองต่อคำถามดังกล่าวว่า ราคาทองคำ ได้ตอบรับปัจจัยบวกในการลดดอกเบี้ยเฟดในปีนี้อย่างแน่นอนแล้วระดับหนึ่ง และสิ่งที่ตลาดคาดหวังมากขึ้นคือ หลังจากการประชุม Jackson Hole นี้ ได้ส่งสัญญาณถึงโอกาสการลดดอกเบี้ยถึง 0.50% และลดทั้งสิ้นในปีนี้รวม 1.00% ดังนั้น ทางกลับกันหากไม่เป็นไปตามภาพดังกล่าว “ตลาดอาจผิดหวัง” “และทองคำอาจเกิดแรงขาย” Sell on fact ระยะสั้นได้เช่นกัน พร้อมกันนี้ ยังพบว่า มีแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ปัจจัยพยุงทองคำเมื่อย่อตัวลง
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์