ธปท.รับ 'เงินบาท'แข็งค่า-ผันผวนหนัก จับตาใกล้ชิด หวั่นกระทบธุรกิจ

ธปท.รับ 'เงินบาท'แข็งค่า-ผันผวนหนัก จับตาใกล้ชิด หวั่นกระทบธุรกิจ

ธปท.รับเงินบาทแข็งค่าและผันผวนขึ้น ตามการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จากการคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐ รวมถึงราคาทองคำตลาดโลกหนุนบาทแข็งค่าขึ้น ชี้จับตาเงินบาทใกล้ชิด หวั่นกระทบต่อภาคธุรกิจ

ล่าสุดศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า เงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 19 เดือนครั้งใหม่ที่ 33.26  บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการแข็งค่าสุดของครึ่งวันเช้านี้

โดยเงินบาทที่ 33.26 บาทต่อดอลลาร์ เป็นระดับที่แข็งค่าสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ก่อนจะกลับมาปรับตัวอยู่ที่ระดับ 33.33-33.35 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงเช้าวันนี้  

 

นางสาวชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ และโฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)กล่าวว่า ยอมรับว่าวันนี้ค่าเงินบาทค่อนข้างแข็งค่ามาก และมีความผันผวนมากขึ้น โดยปัจจัยหลักมาจากปัจจัยต่างประเทศ ที่ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า หลังมีความเห็นของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) เกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยพิเศษ มาจากราคาทองคำในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ค่าเงินบาทแข็งค่ามากขึ้น

ดังนั้นในส่วนของธปท. มีการติดตามสถานการณ์เงินบาทใกล้ชิด เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาคธุรกิจ เพื่อไม่ให้ผันผวนสูงจนส่งผลต่อการดำเนินงานของภาคธุรกิจ 

“เรามอนิเตอร์เงินบาทใกล้ชิดอยู่แล้ว แต่ปัจจัยก็ดูว่าเป็นปัจจัยอะไร ซึ่งหากมาจากปัจจัยภายนอกเราก็เข้าใจ แต่ตอนนี้ปัจจัยที่ทำให้เงินบาทผันผวนสูงมีมากขึ้น จากปัจจัยต่างๆที่เข้ามามากขึ้น ดังนั้นก็ต้องติดตามใกล้ชิดเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อภาคธุรกิจ
 

สำหรับค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาจากปัจจัยภายในประเทศด้วยหรือไม่นั้น ยอมรับว่าเห็นเงินเข้ามาบ้าง แต่ทั้งนี้หากดูตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ยังเป็นไหลออกสุทธิ แต่เห็นเข้ามาบ้าง 

ขณะที่โครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ยืนยันว่า จะต้องรอข้อมูลและรายละเอียดอย่างเป็นทางการออกมา โดยจะมีการนำข้อมูลไปประเมินผลอีกครั้ง ทั้งในเรื่องเงื่อนไข และจะแจกกลุ่มไหนบ้าง แจกเท่าไหร่