10 กองทุนทองคำ ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีสูง 27% หนึ่งทางเลือกที่ดีของการออม
กองทุนทองคำ หนึ่งทางเลือกที่ดีของการออม กองทุนเปิด ดาโอ โกลด์ แอนด์ ซิลเวอร์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ DAOL-GOLDRMF ให้ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีสูงให้กลุ่มที่ 27%
กระแสดราม่ารุนแรงปม "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" สามีภรรยาอินฟูลชื่อดัง ที่กำลังถูกตรวจสอบไลฟ์สดขายทองคำไม่ได้มาตรฐาน ทำให้เรื่องราวของทองคำถูกพูดถึงในวงกว้างหลากหลายมิติ รวมไปถึงในเรื่องวงการลงทุนเกี่ยวกับทองคำเป็นที่นิยมของทั่วโลก เพราะทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าในตัวเอง และเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูง (Safe Heaven) มีความผันผวนน้อย ช่วยป้องกันความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนได้
แต่ทว่าการซื้อขายทองคำแท่งมาเก็บมีข้อจำกัด ฉะนั้นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจคือ "กองทุนรวมทองคำ" หรือ Gold Fund ซึ่งมีนโยบายการลงทุนในทองคำ การเคลื่อนไหวของมูลค่าหน่วยลงทุนจะเป็นไปตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในตลาดโลก
บดินทร์ พุทธอินทร์ ผู้อำนวยการส่วนกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด ให้สัมภาษณ์กับ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า นักลงทุนที่มีความชื่นชอบในทองคำ และต้องการซื้อทองคำเก็บไว้เพื่อชื่นชม นักลงทุนควรเข้าไปซื้อที่ร้านทอง แต่ต้องดูว่า ร้านทองแห่งนั้นต้องเป็นสมาชิกของสมาคมค้าทองคำของบ้าน เพื่อที่นักลงทุนจะได้ในส่วนของการรับประกันทองคำที่มีคุณภาพ และน่าเชื่อถือ
อย่างไรก็ตาม การลงทุนในรูปแบบดังกล่าวจะมีข้อจำกัดบางอย่าง เช่น นักลงทุนต้องหาที่จัดเก็บ และการที่นักลงทุนซื้อทองคำตามร้านทอง จะเป็นลักษณะการลงทุนในรูปแบบ อันเฮดจ์ นั่นหมายความว่า มีผลกับราคาทองคำโลกขึ้น และอัตราแลกเปลี่ยน
ขณะที่นักลงทุนที่ไม่ได้มุ่งเน้นในเรื่องของต้องมีสินทรัพย์ส่วนตัว เพื่อเอาไว้ดูในเรื่องของความสวยงาม การลงทุนผ่านกองทุนรวมเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่หน้าสนใจ และไม่ต้องมีต้นทุนการจัดเก็บ และมีสภาพคล่องดี เนื่องจากสามารถซื้อขายได้ทุกวันทำการ จึงถือว่าน่าสนใจ
นอกจากนี้ในมุมของกองทุนทองคำ นักลงทุนสามารถเลือกได้ด้วยว่า จะเลือกการลงทุนในแบบที่มีการป้องกันอัตราแลกเปลี่ยน หรือไม่ต้องการป้องกันอัตราแลกเปลี่ยน จึงเป็นอีกตัวเลือกให้นักลงทุนสามารถเลือกได้ และไม่ได้มีต้นทุนของการเดินทางที่ต้องไปซื้อจากทางร้านทอง ส่วนอีกมุมหนึ่ง ไม่ต้องกังวลด้วยว่า จะเป็นทองจริงหรือทองปลอม เพราะได้หน่วยลงทุน ณ สิ้นวันแน่นอน
สำหรับมือใหม่ หากไม่มีข้อมูลมากเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนรวมทองคำ แนะนำว่า นักลงทุนควรเริ่มต้นกองทุนรวมทองคำสัดส่วนของการลงทุนไม่ควรเกิน 5% ซึ่งถือว่าอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม ขณะที่ปัจจัยของการลงทุนทองคำมักจะต้องดูข้อมูลหลายๆ ส่วนมาประกอบในการตัดสินใจซื้อ ไม่ว่าจะเป็นของสงคราม หรือเงินเฟ้อ หรืออัตราดอกเบี้ย ซึ่งนักลงทุนที่เพิ่งเริ่มลงทุนควรเลือกลงทุนในรูปแบบของที่มีการป้องกันอัตราแลกเปลี่ยนจะดูปลอดภัยกว่า เนื่องจากในบางครั้งนักลงทุนเห็นราคาทองคำปรับตัวขึ้นมา แต่ราคาทองคำในมูลค่าบาทไม่ได้มีการเคลื่อนไหวไปตามมูลค่าทองคำโลก อาจจะทำให้นักลงทุนเกิดข้อสงสัยได้
"เพราะฉะนั้นนักลงทุนอาจจะเลือกลงทุนควรเริ่มต้นในส่วนของทองคำที่มีการป้องกันจากอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากราคาจะมีความเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับราคาทองคำโลก และอีกประเด็นที่นักลงทุนจะต้องติดตาม โดยปกติกองทุนทองคำส่วนใหญ่จะจดทะเบียนอยู่ประมาณ 3-4 ตลาดในโลก เช่น นิวยอร์ก ฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น ซึ่งการจดทะเบียนในแต่ละตลาดอาจจะทำให้ผลการดำเนินงานแตกต่างกัน เพราะมีเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนของสกุลเงินนั้นที่ไปซื้อขายกันในประเทศนั้นๆ"
ชยนนท์ รักกาญจนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัทหลักทรัพย์นายหน้าซื้อขายหน่วยลงทุน (บลน.) ฟินโนมีนา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า กองทุนรวมในบ้านเรา มีการเข้าไปลงทุน 2 ประเภท โดยประเภทแรกคือ เป็นการลงทุนในมาสเตอร์ฟันด์ หรือกองทุนหลัก ซึ่งจะมีการถือครองในคัสโตเดียน หรือเรียกว่า spdr gold trust ซึ่งนักลงทุนสามารถเลือกได้ทั้งสิงคโปร์ และฮ่องกง และยังสามารถเลือกได้อีกว่า จะป้องกันความเสี่ยงทั้งจำนวน หรือไม่ป้องกันความเสี่ยง
ทั้งนี้ ปัจจุบันค่าเงินบาทแข็งค่าหากเลือกป้องกันความเสี่ยงนักลงทุนจะได้รับประโยชน์ จึงเป็นอีกทางเลือกของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนที่ถือทองคำแท่งในไทย จะเห็นทองคำในตลาดโลกราคาทองคำปรับตัวขึ้นทำ All-time high แต่ทองคำไทยยังไม่ราคายังไม่พ้น 41,000 บาท ดังนั้นนักลงทุนสามารถมาลงทุนในกองทุนรวมทองคำที่ป้องกันความเสี่ยงได้
นอกจากนี้ ยังมีการลงทุนในกองทุนรวมที่ผ่านการลงทุนในทองคำแท่งโดยตรง ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้นักลงทุนที่ไม่แน่ใจหรือไม่อยากสะสมทองคำไว้ในบ้าน
"กองทุนที่ลงทุนใน spdr gold trust ข้อดีคือ เป็นการเข้าไปลงทุนในทองคำบริสุทธิ์มาตรฐานสากล 99.99% นั่นแปลว่า เป็นสิ่งที่ทั่วโลกยอมรับ"
ธนรัชต์ พสวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ฮั่วเซ่งเฮง ให้ข้อมูลเสริมว่า ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจค้าทองส่วนใหญ่ทำการมาเนิ่นนาน และมีระบบบริหารจัดการที่ดี และมีหน้าร้าน ซึ่งทองคำเป็นสิ่งที่มีมูลค่า หากนักลงทุนจะทำการซื้อขายควรเลือกผู้ให้บริการที่น่าเชื่อถือได้
ทั้งนี้ ในส่วนที่นักลงทุนหรือผู้ซื้อผ่านทางออนไลน์ ควรเลือกซื้อกับผู้ประกอบการที่มีระบบการซื้อขายมีการวางระบบที่ดีไม่ใช่แค่การวางระบบคำสั่งซื้อขายเพียงอย่างเดียว แต่ต้องดูระบบหลังบ้าน และการบริหารจัดการ เนื่องจากมันมีผลเพราะว่า ธุรกิจค้าทองมีการบริหารสภาพคล่องระหว่างเงินกับทองคำ จึงอยู่ที่จรรยาบรรณของผู้ค้า ซึ่งต้องมีวิธีการที่รัดกุม และถูกต้อง
ดังนั้นยังเชื่อว่า หากนักลงทุนเลือกซื้อทองคำกับผู้ประกอบการที่มีความชำนาญ และมีมานาน มีหลักแหล่งตัวตนก็จะทำให้นักลงทุนเกิดความมั่นใจได้มากกว่า จึงอยากให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังว่า อะไรก็ตามที่เป็นเม็ดเงินที่เยอะ หากตัดสินใจทันทีโดยไม่หาข้อมูลก่อนก็ไม่ดี ปัจจุบันการหาข้อมูลข่าวสารในอินเทอร์เน็ตอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่นักลงทุนสามารถหาข้อมูลได้ก่อน ว่าที่ไหนเป็นที่เหมาะสม และสามารถเลือกไปใช้บริการได้
"ทองคำมีราคากลางที่เทียบได้ทั่วโลก หากมีราคาที่ถูกเกินจริง หรือดูไม่น่าเชื่อถือให้ผลตอบแทนที่มากเกินจริง เราต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่า มันอาจจะไม่ถูกต้อง"
ทั้งนี้ "กรุงเทพธุรกิจ" ได้สำรวจกองทุนทองคำใน มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) ตั้งแต่ต้นปี 2567 ให้ผลตอบแทนสูงสุดที่ %
1.บลจ.ดาโอ - กองทุนเปิด ดาโอ โกลด์ แอนด์ ซิลเวอร์ อิควิตี้ เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ DAOL-GOLDRMF
- ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 67 ที่ 27.49%
- ราคา 8.20 บาท
- มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 21.59 ล้านบาท
- ความเสี่ยงระดับ 7
2.บลจ.กรุงไทย - กองทุนเปิดเคแทม เวิลด์ โกลด์ แอนด์ เพรเชียส เอคควิตี้ หรือ KT-PRECIOUS
- ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 67 ที่ 26.60%
- ราคา 6.00 บาท
- มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 779.87 ล้านบาท
- ความเสี่ยงระดับ 7
3.บลจ.เกียรตินาคินภัทร - กองทุนเปิดเคเคพี โกลด์ หรือ KKP GOLD
- ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 67 ที่ 24.61%
- ราคา 10.26 บาท
- มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 46.74 ล้านบาท
- ความเสี่ยงระดับ 8
4.บลจ.ไทยพาณิชย์ - กองทุนเปิดไทยพาณิชย์โกลด์ THB เฮดจ์ (ชนิดช่องทางอิเล็กทรอนิกส์) หรือ SCBGOLDHE
- ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 67 ที่ 23.95%
- ราคา 12.99 บาท
- มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 36.39 ล้านบาท
- ความเสี่ยงระดับ 8
5.บลจ.กรุงศรี - กองทุนเปิดกรุงศรีโกลด์เฮดจ์ หรือ KF-HGOLD
- ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 67 ที่ 23.78%
- ราคา 13.26 บาท
- มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 300.57 ล้านบาท
- ความเสี่ยงระดับ 8
6.กองทุนเปิดเค โกลด์เพื่อการเลี้ยงชีพ หรือ KGDRMF
- ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 67 ที่ 23.63%
- ราคา 12.82 บาท
- มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 124.37 ล้านบาท
- ความเสี่ยงระดับ 8
7.บลจ.ยูโอบี - กองทุนเปิด ยูโอบี โกลด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ - H หรือ UOBGRMF-H
- ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 67 ที่ 23.25%
- ราคา 19.51 บาท
- มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 5,533.18 ล้านบาท
- ความเสี่ยงระดับ 8
8.บลจ.กรุงไทย - กองทุนเปิดเคแทม โกลด์ ฟันด์ หรือ KT-GOLD
- ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 67 ที่ 23.05%
- ราคา 16.18 บาท
- มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 997.65 ล้านบาท
- ความเสี่ยงระดับ 8
9.บลจ.วรรณ - กองทุนเปิดวรรณโกลด์ เพื่อการเลี้ยงชีพ หน่วยลงทุนชนิดทั่วไป หรือ GOLD-RMF-A
- ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 67 ที่ 23.05%
- ราคา 16.05 บาท
- มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 119.76 ล้านบาท
- ความเสี่ยงระดับ 8
10.บลจ.อีสท์สปริง (ประเทศไทย) - กองทุนเปิดอีสท์สปริง ทองคำแท่งเพื่อการเลี้ยงชีพ-H หรือ ES-GOLDRMF-H
- ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปี 67 ที่ 22.99%
- ราคา 14.10 บาท
- มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 310.83 ล้านบาท
- ความเสี่ยงระดับ 8
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์