หลักเกณฑ์เสียภาษีสำหรับ "ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย" ในจุดผ่อนปรน

หลักเกณฑ์เสียภาษีสำหรับ "ผู้ค้าหาบเร่แผงลอย" ในจุดผ่อนปรน

หาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนปรนของกรุงเทพฯ จะต้องยื่นเสียภาษีตามกฎหมายและทำตามเงื่อนไข เปิดหลักเกณฑ์เสียภาษี พร้อมเงื่อนไขต่างๆ อ่านที่นี่

การสร้างความมั่นคงในอาชีพการงานของแต่ละคนไม่ใช่เรื่องง่าย ซึ่งต้องยอมรับว่าปัจจัยเรื่องเงินเป็นตัวแปรสำคัญในการดำเนินธุรกิจ ทำให้หลายคนต้องเริ่มธุรกิจขนาดเล็ก อย่างเช่นอาชีพค้าขายที่เรามักเห็นตั้งร้านแผงลอยอยู่บนพื้นที่สาธารณะ ถนนริมทางเดินเพื่อประหยัดค่าเช่าที่ แล้วเก็บเล็กผสมน้อยไปก่อนจึงค่อยขยับขยายธุรกิจ พื้นที่ค้าขายของตนเอง

และเมื่อร้านแผงลอยเข้าจับจองพื้นที่สาธารธณะมากขึ้น ในมุมของความสวยงามและความสะดวกในการเดินทางสัญจร กลับสร้างปัญหาให้กับผู้คนไม่น้อย จึงทำให้เกิดการประชุมทบทวนเรื่องหาบเร่แผงลอยที่จะประกาศหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเพื่อรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยของกรุงเทพฯ ขึ้น

ซึ่งหลังจากประชาพิจารณ์และปรับปรุงตามความเห็นในเรื่องอื่นเพิ่มเติมเสร็จสิ้นแล้ว จะลงนามและรอประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป  

โดยเบื้องต้นหากมีการหาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนปรนของกรุงเทพฯ จะต้องยื่นเสียภาษีตามกฎหมายและทำตามเงื่อนไขคือ ถ้ารายได้น้อยเกินกว่าจะเสียภาษี ก็ยังมีหน้าที่ต้องยื่นภาษีหากเข้าหลักเกณฑ์เพื่อให้รัฐบาลรู้ว่ามีรายได้เท่าไหร่ และหากหาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนปรนมีรายได้เกิน 25,000 บาท/ปี หลังหักค่าใช้จ่ายแล้ว จะต้องย้ายไปเช่าพื้นที่อื่นทำมาหากินแทน

คุณสมบัติและเงื่อนไขสำหรับผู้ค้าขายหาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนปรน

เงื่อนไขและคุณสมบัติสำหรับพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่แผงลอยในจุดผ่อนปรนที่ต้องปฏิบัติตามมีดังนี้

คุณสมบัติ

​- เป็นผู้มีสัญชาติไทย

- เป็นบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติข้อใดข้อหนึ่ง ณ วันที่ลงทะเบียนดังต่อไปนี้

1) เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
2) เป็นคู่สัญญาในการซื้อบ้านที่อยู่อาศัยกับการเคหะแห่งชาติในโครงการบ้านมั่นคง ของสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนและยังมีภาระผูกพันในการชําระของมนุษย์
3) เป็นบุคคลที่ได้รับเงินสวัสดิการจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง
4) เป็นผู้มีรายได้ไม่เกิน 180,000 บาทต่อปี โดยให้อ้างอิงหลักฐาน จากรายได้พึงประเมินการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา

ทั้งนี้ หากผู้ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการแต่ยังไม่เคยยื่นภาษี สามารถใช้หลักฐานการยื่นภาษีในปีถัดไปมาเป็นหลักฐานได้

เงื่อนไขต่างๆ

- ต้องเป็นผู้ค้าที่ยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาต่อสรรพากรทุกปีตามที่กฎหมายกำหนด และนำเอกสารหลักฐานมายื่นต่อสำนักงานเขต หากเงินได้พึงประเมินเกินกว่าที่กำหนดให้ถือว่าสิทธิในการทำการสิ้นสุดลง

- หากผู้ค้าหลีกเลี่ยงโดยไม่ส่งเอกสารภายในเวลาที่กหนด จะถือว่าเป็นผู้มีรายได้เกินกว่าที่กำหนดไว้

- ผู้ค้าต้องได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขโดยให้มีผู้ช่วยจำหน่ายสินค้าได้ 1 คน

- การได้รับอนุญาตให้ทำการค้าให้ถือเป็นการเฉพาะตัวและไม่สามารถขาย จำหน่าย และเปลี่ยน ให้เช่า โอนหรือให้บุคคลอื่น รวมทั้งต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขอื่นตามที่กรุงเทพมหานครกำหนด

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยต้องเสีย

จากประกาศเรื่องหลักเกณฑ์ เงื่อนไขสำหรับผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่ใช้พื้นที่ในเขตผ่อนปรนของกรุงเทพมหานคร จะต้องยื่นภาษีและเสียภาษีตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด และนำส่งเอกสารหลักฐานกับสำนักงานเขตที่ใช้พื้นที่หาบเร่แผงลอยในเขตผ่อนปรนนั้นๆ

โดยการยื่นภาษีตามกฎหมายกำหนดว่า เมื่อผู้มีรายได้ที่ได้รับค่าจ้าง รายได้อื่นๆ ที่ไม่ใช่เงินเดือน มีเฉพาะเงินประเภทอื่น อย่างเช่นเงินจากการขายของ หากเกิน 60,000 บาท จะต้องยื่นภาษี แต่ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษี และหากรายได้สุทธิหลังจากหักค่าลดหย่อนต่างๆ แล้วเกิน 150,000 บาท จะต้องเสียภาษี

ทั้งนี้ ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยจัดอยู่เงินได้พึงประเมินมาตรา 40(8) การเสียภาษีจะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ

1) หักค่าใช้จ่ายแบบเหมา 60% วิธีนี้ไม่จำเป็นต้องทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายเพื่อยื่นภาษี และไม่ต้องเก็บเอกสารประกอบเพื่อใช้ยื่นภาษี เพราะไม่ต้องพิสูจน์รายได้ โดยเหมาะกับผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่มีต้นทุน-ค่าใช้จ่าย น้อยกว่า 60% และมีกำไรมากถึง 40%

2) แบบหักค่าใช้จ่ายตามจริง ลักษณะนี้เหมาะกับผู้ค้าหาบเร่แผงลอยที่มีต้นทุนสูง และมีกำไรน้อยกว่า 40% โดยจะต้องทำบันทึกรายรับ-รายจ่ายและกำไรทุกเดือน เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการคำนวณยื่นภาษี และต้องเก็บเอกสารทุกใบที่มีข้อมูลระบุชัดเจนและถูกต้องตามที่กรมสรรพากรกำหนด

จากนั้นนำมาคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามสูตร คือ

(รายได้ – ค่าใช้จ่าย – ค่าลดหย่อน) x อัตราภาษี
= ภาษีที่ต้องจ่าย

โดยสามารถเปรียบเทียบจากตารางอัตราภาษีก้าวหน้า ดังนี้

อัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามอัตราภาษีก้าวหน้าหรือแบบขั้นบันได ดังนี้

เงินได้สุทธิ 0 – 150,000 บาท ​​(ได้รับการยกเว้นภาษี)
เงินได้สุทธิ 150,001 – 300,000 บาท ​(อัตราภาษี 5%)
เงินได้สุทธิ 300,001 – 500,000 บาท ​(อัตราภาษี 10%)
เงินได้สุทธิ 500,001 – 750,000 บาท ​(อัตราภาษี 15%)
เงินได้สุทธิ 750,001 – 1,000,000 ​​(อัตราภาษี 20%)
เงินได้สุทธิ 1,000,001 – 2,000,000​​(อัตราภาษี 25%)​
เงินได้สุทธิ 2,000,001 – 5,000,000 ​(อัตราภาษี 30%)​
เงินได้สุทธิเกิน 5,000,000 ขึ้นไป​​(อัตราภาษี 35%)

สรุป...ผู้ค้าหาบเร่แผงลอยในพื้นที่ผ่อนปรน อย่าลืมยื่นภาษี

ดังนั้น เมื่อหลักเกณฑ์ดังกล่าวเริ่มใช้จริง ใครที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวโดยการเลือกใช้พื้นที่ผ่อนปรนของกรุงเทพมหานคร ในการค้าขายหาบเร่แผงลอยเพื่อให้ประหยัดค่าเช่าพื้นที่ อย่าลืมไปขอขึ้นทะเบียนที่สำนักงานเขตนั้นๆ และยื่นภาษีประจำปีหากรายได้เกิน 60,000 บาท และเสียภาษีเมื่อเงินได้สุทธิหลังหักค่าใช้จ่ายแล้วเกิน 150,000 บาท พร้อมกับส่งหลักฐานให้กับสำนักงานเขตที่ค้าขายแผลอยอยู่ทุกปี เพื่อรักษาสิทธิในการใช้พื้นที่ผ่อนปรนอย่างถูกต้องตามกฎระเบียบบังคับ

 

อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษีเพิ่มเติม คลิกที่นี่
Source : Inflow Accounting