‘เงินหยวน’ อ่อนค่า จีนกังวล ‘ทรัมป์’ ขึ้นภาษี 200% บีบตลาดเงิน-หุ้น ผันผวน
ค่าเงิน ‘หยวน’ จีนอ่อนค่า 1.2% กังวล ‘ทรัมป์เทรด’ ขู่ขึ้นภาษีสินค้ามากสุด 200% บีบ ‘ตลาดเงิน-ตลาดหุ้น’ ผันผวน จับตารัฐบาลจีนควบคุมสเถียรภาพ
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานความเคลื่อนไหวผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่า “โดนัลด์ ทรัมป์” มีคะแนนนำ ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อตลาดการเงินของ “จีน” โดยเฉพาะค่าเงินหยวนและตลาดหุ้น
นักลงทุนวิตกกังวลถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศที่อาจทวีความรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ “เงินหยวน” ที่ซื้อขายนอกประเทศอ่อนค่าลงอย่างมากถึง 1.2% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2565
ขณะที่ตลาดหุ้นในฮ่องกงได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยดัชนีฮั่งเส็งดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดของวันนี้กว่า 3%
“ค่าเงินหยวน” ได้กลายเป็นดัชนีชี้วัดสำคัญที่นักลงทุนให้ความสนใจติดตามอย่างใกล้ชิด จากกรณี “ทรัมป์เทรด” ในช่วงปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เงินหยวนได้อ่อนค่าลงอย่างมีนัยสำคัญ สืบเนื่องจากการคาดการณ์ของนักลงทุนเกี่ยวกับโอกาสที่ทรัมป์จะได้รับตำแหน่งประธานาธิบดี
"ทรัมป์"ได้เคยเสนอแผนการจัดเก็บภาษีศุลกากรแบบครอบคลุม 10%-20% สำหรับสินค้านำเข้าเกือบทั้งหมด รวมทั้งภาษีศุลกากร 60% หรืออาจไปถึง 200% สำหรับสินค้าจากจีน โดยเขากล่าวว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นการผลิตของสหรัฐ
เคน เฉิง หัวหน้าวิเคราะห์ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเอเชียของธนาคาร Mizuho ได้แสดงความเห็นว่า การเสนอนโยบายขึ้นภาษีของทรัมป์มีแนวโน้มที่จะกระทบต่อค่าเงินหยวน โดยอ้างอิงจากประสบการณ์ในอดีตที่เงินหยวนอ่อนค่าลงในช่วงสงครามการค้าที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
หากพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้ง ความเสี่ยงจากการอ่อนค่าของเงินหยวนยังสามารถบริหารจัดการได้ เนื่องจากธนาคารประชาชนจีนน่าจะมีความพร้อมในการเข้าแทรกแซงเพื่อรักษาเสถียรภาพของค่าเงิน
อย่างไรก็ตาม ตลาดตั้งคำถามว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนนั้นเพียงพอที่จะหยุดยั้งภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและรับมือกับผลกระทบจากภายนอกหรือไม่ เนื่องจากการส่งออกของจีนก็ยังฟื้นตัวได้ไม่ดีนักท่ามสภาพแวดล้อมทางการค้าที่ไม่เอื้ออำนวย ดังนั้นหมายความว่าทางการจะต้องเพิ่มการสนับสนุนนโยบายเพื่อชดเชยผลกระทบเชิงลบหรือไม่
อ้างอิง Bloomberg