‘กิตติรัตน์’ นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติตามคาด!
ฉุดไม่อยู่!! มติคณะกรรมการสรรหา มีมติเลือก ‘ กิตติรัตน์ ’ เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ไม่สนแรงค้าน ไม่สนับสนุนคนใกล้ชิดการเมืองแทรกแซงแบงก์ชาติ
สิ้นสุดการรอคอย สำหรับ การเลือก "ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ" ที่ล่าสุดมีการประชุมเลือกประธานบอร์ดตั้งแต่ 10:00 น. จนถึง 15.00 น.
โดยแหล่งข่าวระดับสูงกล่าวว่า ที่ประชุม โดยคณะกรรมการสรรหามีมติเลือก' กิตติรัตน์ ณ ระนอง เป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนถัดไปแทน นายปรเมธี วิมลศิริ ประธานกรรมการแบงก์ชาติคนล่าสุดสิ้นสุดวาระดำรงตำแหน่ง เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2567 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามวันนี้ นอกจากเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติแล้ว ยังมีมติเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2 ท่าน คือ นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเข้ามาดำรงตำแหน่ง ตามโควตาที่คลังเสนอ
อีกท่านคือ นางสาวชุณหจิต สังข์ใหม่ นั่งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
การเลือกประธานบอร์ดครั้งนี้ ถูกจับตาอย่างมาก จากสาธารณะ ประชาชน และเหล่านักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ และมีแรงต้านจากสังคมไม่น้อย เกี่ยวกับตัว 'ผู้สมัคร' ที่ 'คนใกล้ชิด' ฝ่ายการเมือง ทำให้ถูกครหาว่า การส่งผู้ใกล้ชิดฝ่ายการเมืองเข้ามาดำรงตำแหน่ง 'ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ' มาเพื่อผลประโยชน์ และหวังตอบสนองนโยบายของรัฐบาลเท่านั้น
ที่ล้วนคำนึงถึง 'ผลระยะสั้น' เท่านั้น ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบระยะยาว ที่อาจนำมาสู่ ภาระทางการคลังเพิ่มขึ้น การสูญเสียเสถียรภาพทางการเงิน เสถียรภาพเศรษฐกิจที่อาจสั่นคลอนในระยะข้างหน้า
เสียงค้านเหล่านี้ นำมาสู่การออกมาของ 'มวลชน' จำนวนมาก โดยเฉพาะเหล่านักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์ที่ล้วนความรู้เรื่องเศรษฐศาสตร์ การเงินเป็นอย่างดี
รวมถึง 'อดีต' ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยถึง 4 ท่าน ได้แก่ โดยได้แก่ ปรีดิยาธร เทวกุล, ประสาร ไตรรัตน์วรกุล, วิรไท สันติประภพ, ธาริษา วัฒนเกส ที่ออกมาแสดงความห่วงใยในการ ' คัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติ' ครั้งนี้ ซึ่งถือ เป็น 4 บุคคลสำคัญ ที่ร่วมลงชื่อไม่เห็นด้วย เพื่อให้บุคคลใกล้ชิดฝ่ายการเมืองเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ร่วมกับกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์ ที่ขณะนี้มีกว่า 830 คนไปแล้ว
เช่นเดียวกับ วิรไท สันติประภพ ที่ล่าสุดออกมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง
โดยระบุว่า....
ขอย้ำอีกครั้งนะครับ ว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของแบงก์ชาติ แต่เป็นเรื่องอนาคตของชาติ
candidate ชื่ออะไรไม่สำคัญ แต่ถ้ามีประวัติเป็นคนการเมืองแบบแนบแน่น มีทัศนคติ และวิธีคิดที่อยากแทรกแซงการทำงานของธนาคารกลางเพื่อตอบโจทย์การเมือง ก็ไม่สมควรครับ
ถ้าเรายอมให้ฝ่ายการเมืองส่งคนการเมืองเข้ามาครอบงำแบงก์ชาติได้โดยง่าย จะเป็นอันตรายยิ่งต่อการรักษาเสถียรภาพของระบบเศรษฐกิจไทย ทำลายความน่าเชื่อถือของธนาคารกลาง และทำลายหน่วยงานหลักทางเศรษฐกิจของประเทศให้อ่อนแอจนไม่เหลือสักหน่วยงานเดียวที่จะทัดทานนโยบายเศรษฐกิจที่ไม่ถูกไม่ควรได้
ต่อไปเราคงเห็นนโยบายประชานิยมแบบปลายเปิดเต็มไปหมด ไม่มีใครสนใจวินัยการเงินการคลัง มีแต่นโยบายที่หวังผลประโยชน์ระยะสั้นเพื่อตอบโจทย์การเมืองเป็นหลัก ในอนาคตนโยบายการเงิน และนโยบายสถาบันการเงินก็อาจจะถูกทำให้กลายพันธุ์เป็นนโยบายประชานิยมไปด้วยก็ได้ครับ
11.11 ร่วมด้วยช่วยกันป้องกันอย่าให้การเมืองเข้ามาครอบงำแบงก์ชาติได้โดยง่ายครับ
ด้าน คณะศิษยานุศิษย์ที่น้อมนำธรรมองค์หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน (คณะศิษย์ฯ)ก็ออกมาเคลื่อนไหวเช่นกัน โดยมีการมายื่นหนังสือถึง ธปท.เช้าวันนี้ ที่ธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงเมื่อช่วงสายที่มี กองทัพธรรม คปท. ศปปส. ระดมรายชื่อกว่า 51,980 รายชื่อ เพื่อคัดค้านการเลือก “ผู้ที่ใกล้ชิดทางฝ่ายการเมือง” มาเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติด้วยเช่นกันเมื่อเช้าวันนี้เวลา 09.30 น.
พิสูจน์อักษร....สุรีย์ ศิลาวงษ์