‘บล.บียอนด์’เร่งการเติบโต ขยายธุรกิจเวลธ์ดันรายได้

‘บล.บียอนด์’เร่งการเติบโต ขยายธุรกิจเวลธ์ดันรายได้

“บล.บียอนด์” มุ่งมั่นรักษาการเติบโต และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดต่อเนื่องในช่วงที่เหลือปีนี้ เดินหน้า บริหารจัดการความมั่งคั่ง-ธุรกิจโบรกเกอร์ประกัน ปั้มรายได้ พร้อมชูฐานะการเงินแข็งแกร่งและมีสภาพคล่องสูง

นางสาวออมสิน ศิริ ประธานกรรมการบริหาร บล.บียอนด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BYD เปิดเผยว่า บล.บียอนด์ ก้าวสู่โหมดการเติบโตอย่างชัดเจนในไตรมาส 3 ปี 2567 แม้สถานการณ์โดยรวมของตลาดหุ้นไทยที่ผ่านมายังไม่สดใสมากนัก โดยผลการดำเนินงานบริษัทใน 9 เดือนปีนี้ มีรายได้รวม 723.60 ล้านบาท และมีกำไร 118.31 ล้านบาท เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน รายได้รวมติดลบ 287.16 ล้านบาท กำไรติดลบ 562.15 ล้านบาท

สำหรับ แนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 4 ปี 2567 บริษัทยังมุ่งมั่นรักษาการเติบโต และเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดต่อเนื่องจากไตรมาส 3 ปี 2567 นำโดยธุรกิจบริหารจัดการความมั่งคั่ง และนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนที่หลากหลายทั้งในและต่างประเทศ

โดย บริษัทยังมุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างมั่นคง ด้วยฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง และมีสภาพคล่อง ด้วยสินทรัพย์สภาพคล่อง 1,400-1,500 ล้านบาท แม้ลดลงบ้าง เพราะเป็นผลจากการขยายการลงทุนก่อนหน้านี้แต่ยังสูงกว่าที่เกณฑ์กำหนดไว้ที่ 20-30 ล้านบาท และ สินทรัพย์สภาพคล่องสุทธิ (NCR) ระดับ 200-300% ถือว่าสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ที่ 7% 

ดังนั้น สะท้อนความแข็งแกร่งฐานะการเงิน มีเงินสดและสินทรัพย์สภาพคล่องสูงพร้อมกับให้บริการสินเชื่อมาร์จิ้นโลนเพิ่มขึ้น สร้างผลตอบแทน และเป็นตัวกลางในการออกตราสารหนี้ตลาดรอง

ขณะที่ โครงสร้างของผู้ถือหุ้นยังใกล้เคียงที่ผ่านมาแต่ได้มีการขยายการลงทุนธุรกิจใหม่ เป็นโบรกเกอร์ (นายหน้า) ประกันภัยทุกรูปแบบ จะมีบทบาทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อในอนาคต ในการเข้าไปตอบสนองความต้องการทางการเงินและบริหารความเสี่ยงของลูกค้าอย่างครบวงจร

แม้ราคาหุ้นที่ปรับตัวลดลงก่อนหน้านี้จนถึงปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าหุ้นที่ตราไว้ หรือไม่ถึง 1 เท่า สะท้อนว่า ราคาหุ้นของบริษัทต่ำกว่ามูลค่าของบริษัท อาจเป็นผลมาจากความคาดหวังผลประกอบการที่เพิ่มขึ้น หรือต้องสร้างเติบโตมากกว่านี้ เป็นสิ่งที่บริษัทกำลังดำเนินการต่อหลังจากนี้ อย่างไรก็ตามด้วยมาร์เก็ตแคป ระดับ 4,000 ล้านบาท ยังถือว่าสูง ทำให้เรายังอยู่ในเรดาร์การลงทุนได้

นางสาวออมสิน กล่าวว่า สำหรับหุ้นกู้ตลาดรองเริ่มมากขึ้นในปลายไตรมาส 3 และ ไตรมาส 4 ปีนี้ เป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องการสินทรัพย์ที่มีคุณภาพ หาในตลาดแรกไม่ได้ ทำให้นักลงทุนมาหาในตลาดรองมากขึ้น และบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดทำตลาดเพิ่มขึ้นและต่อเนื่อง

ทางด้านการบริการซื้อขายหุ้น เน้นโรบอทเทรดโดยเชื่อมต่อกับ SETTRADE OPEN AI เพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนพร้อมกับพัฒนาแอปพลิเคชั่น และมีผลิตภัณฑ์การลงทุนหลากหลายทั้งในและต่างประเทศ

สำหรับบริการรับประกันการจำหน่ายหุ้นในปีนี้ทำไปแล้ว จำนวน 2 หลักทรัพย์ และยังคงจะมีอีก 1-2 หลักทรัพย์ ซึ่งยังรอดูจังหวะ และสภาพตลาดที่เหมาะสมในการออกจำหน่ายหุ้น 

“เราให้น้ำหนักการลงทุน เพื่อไม่ได้หยุดการพัฒนาทั้งพนักงาน เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์ และการลงทุน เป็นพื้นฐานสร้างการเติบโตอย่างแข็งแรง”

นอกจากนี้ แนวโน้มผลประกอบการของไทยสมายบัส มีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้น หลังจากบริษัทซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับสิทธิตามกฎหมายได้เข้าไปเจรจากับ ขสมก. ที่วิ่งทับเส้นทางเป็นผลสำเร็จ ทำให้เราบรรจุรถเพิ่มและมีรายได้เพิ่มขึ้น ตามสิทธิที่ควรได้ ทั้งนี้ ยังมีอีก 10 เส้นทางที่วิ่งทับเส้น จะเดินหน้าหารือ และจะทำให้เราสามารถรายได้เพิ่มขึ้นอีกในระยะข้างหน้า