BOJ ไม่เสี่ยงขึ้นดอกเบี้ย ‘อุเอดะ’ รอดูตัวเลขเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง
BOJ ไม่เสี่ยงขึ้นดอกเบี้ย
‘คาซึโอะ อุเอดะ’ ขอรอดูตัวเลขเศรษฐกิจ-ค่าจ้างอย่างรอบคอบ เพื่อดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง ตลาดคาดโอกาสขึ้นดอกเบี้ยมีเพียง 20%
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เตรียมหารือเกี่ยวกับแนวทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 18-19 ธ.ค.นี้ที่มีความผันผวน โดยที่ “คาซึโอะ อูเอดะ” (Kazuo Ueda) ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นแสดงท่าทีไม่เร่งรีบที่จะดำเนินการ “ดอกเบี้ยนโยบาย“
เมื่อสองสัปดาห์ก่อน ตลาดกว่า 70% คาดการณ์ว่า BOJ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ แต่ภายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ความคาดหวังดังกล่าวกลับลดลงอย่างมาก เหลือน้อยกว่า 20% ที่คงคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ และส่วนใหญ่กลับคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นเป็น 0.5% ในการประชุมครั้งต่อไปที่จะมีขึ้นในวันที่ 23-24 ม.ค.2568
ความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นนี้ มีสาเหตุมาจากคำพูดของผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น คาซุโอะ อุเอดะ ในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวนิกเกอิเอเชียว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปกำลัง "ใกล้เข้ามา" แต่เขายังต้องการตรวจสอบโมเมนตัมในการขึ้นค่าจ้างในปีหน้า และแนวโน้มการกำหนดราคาของบริษัทขนาดใหญ่
ในตอนแรก คำพูดของอุเอดะถูกตีความว่าเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธันวาคมนี้ แต่ต่อมาความคิดเห็นกลับเปลี่ยนไป โดยมีการตีความใหม่ว่าเป็นการขอให้ตลาดอดทนรอการตัดสินใจของธนาคารกลางต่อไป
ธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจยังไม่เร่งรีบที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าจะมีแรงกดดันจากเงินเฟ้อก็ตาม ทางธนาคารอาจมองว่าการรอคอยข้อมูลเพิ่มเติมหรือการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจอย่างรอบคอบนั้นคุ้มค่ามากกว่าความเสี่ยงที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป
ทัตสึโอะ ยามาซากิ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง มีมุมมองที่ชัดเจนว่าถึงเวลาแล้วที่ BOJ ควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยมองว่าแนวโน้มเงินเฟ้อเป็นปัจจัยสนับสนุน แต่เขาก็สังเกตเห็นว่า คาซูโอะ อุเอดะ ผู้ว่าการ BOJ ดูเหมือนจะแสดงท่าทีระมัดระวังมากขึ้นและลดความคาดหวังของตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
อิซูรุ คาโตะ นักเศรษฐศาสตร์มองว่าธนาคารกลางญี่ปุ่นใกล้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเข้าไปทุกที พร้อมคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในเดือนธันวาคมนี้ แต่จะมีการปรับขึ้นในเดือนมกราคมปีหน้า