8 กลุ่มโรคจากการทำงาน ผู้ประกันตนรักษาฟรี! กับคลินิกพันธมิตร

สำนักงานประกันสังคม ออกมาตรการช่วยเหลือลูกจ้างและแรงงาน ในกรณีพบ 8 กลุ่มโรคจากการทำงานให้เข้ารับรักษาฟรีกับคลินิกโรคจากการทำงาน รายละเอียดเป็นอย่างไร เช็คได้ที่นี่
โรคจากการทำงาน เป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นจากการประกอบอาชีพหรือการทำงานในสภาพแวดล้อมที่ส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของผู้ปฏิบัติงาน สาเหตุของโรคเหล่านี้มักเกี่ยวข้องกับปัจจัยต่างๆ เช่น การสัมผัสสารเคมีอันตราย เสียงดัง การทำงานในท่าทางที่ไม่เหมาะสม หรือการทำงานในสภาวะที่มีความกดดันสูงเป็นระยะเวลานาน
โดยผลกระทบของโรคจากการทำงานอาจแสดงออกมาในรูปแบบที่หลากหลาย ตั้งแต่อาการเล็กน้อยไปจนถึงโรคที่รุนแรง ดังนั้น สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน และกระทรวงสาธารณสุข ได้ตระหนักถึงโรคภัยและไม่ได้นิ่งนอนใจที่จะดูแลผู้ประกันตนมาตรา 33 ลูกจ้างและผู้ใช้แรงงาน
ทั้งนี้ ล่าสุดสำนักงานประกันสังคมได้ออกมาตรการช่วยเหลือลูกจ้างและแรงงาน ในกรณีพบ 8 กลุ่มโรคจากการทำงานให้เข้ารับรักษาฟรีกับคลินิกโรคจากการทำงาน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
คลินิกโรคจากการทำงาน คืออะไร
คลินิกโรคจากการทำงาน คือ คลินิกที่ร่วมมือกับสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน และกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้บริการตรวจวินิจฉัย รักษา และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับโรคหรือปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นจากการทำงาน โดยเน้นการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมหรือปัจจัยเสี่ยงในที่ทำงาน เช่น การสัมผัสสารเคมี ฝุ่น เสียงดัง การทำงานที่ใช้แรงซ้ำๆ หรือมีการเคลื่อนไหวที่ไม่เหมาะสม รวมถึงความเครียดจากการทำงาน
โดยคลินิกเหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการป้องกันโรคจากการทำงานโดยการประเมินความเสี่ยงในสถานประกอบการ ให้คำแนะนำด้านความปลอดภัย และช่วยลดผลกระทบทางสุขภาพต่อแรงงาน อีกทั้งยังทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพการทำงานแก่นายจ้างและลูกจ้าง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
8 กลุ่มโรคจากการทำงานมีอะไรบ้าง
โรคจากการทำงาน คือ โรคที่เกิดจากสภาพแวดล้อมหรือปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ส่งผลต่อสุขภาพของพนักงานไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ซึ่งประกอบด้วย 8 กลุ่มโรคจากการทำงานที่ได้รับการรักษาฟรี มีดังนี้
1.โรคที่เกิดจากสารเคมี เช่น โรคหัวใจที่เกิดจากควันพิษของสารเคมีโรคที่เกิดจากคาร์บอนไดซัลไฟด์ โรคที่เกิดจากสารหนู โรคที่เกิดจากสารปรอท โรคที่เกิดจากสารตะกั่ว โรคที่เกิดจากสารแคดเมียม
2.โรคระบบกระดูก กล้ามเนื้อ เอ็น และข้อ เช่น อาการปวดหลัง ปวดไหล่ จากการยกของหนักหรือท่าทางการทำงานที่ผิด
3.โรคมะเร็งที่เกิดจากการทำงาน เช่น มะเร็งที่เกิดจากสารเคมีก่อมะเร็ง
4.โรคผิวหนัง เช่น ผิวหนังอักเสบจากการสัมผัสสารเคมีโดยตรง
5.โรคที่เกิดจากความผิดปกติทางจิตและพฤติกรรม เช่น โรคซึมเศร้า โรคสมองเสื่อม
6.โรคระบบทางเดินหายใจที่เกิดจากการทำงาน เช่น โรคหอบหืดจากสารเคมีหรือฝุ่นในโรงงาน
7.โรคที่เกิดจากสาเหตุทางกายภาพ เช่น โรคความบกพร่องทางการได้ยิน โรคที่เกิดจากรังสี โรคที่เกิดจากอากาศอัด โรคที่เกิดจากการสัมผัสอุณหภูมิที่สูงเกินไป
8.โรคจากสารชีวภาพและโรคติดเชื้อ เช่น โรคบาดทะยัก โรคติดเชื้อตับอักเสบ โรคแอนแทรกซ์
การป้องกันโรคเหล่านี้สามารถทำได้โดยใช้อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล รวมถึงการปรับปรุงสภาพแวดล้อมอย่างเหมาะสม
เงื่อนไขและขั้นตอนในการเข้ารับการรักษา
ลูกจ้างหรือผู้ใช้แรงงานต้องเป็นผู้ประกันตนมาตรา 33 เท่านั้น และเกิดการเจ็บป่วยหรือประสบอันตรายจากการทำงานสามารถเข้ารับการรักษาที่คลินิกหรือโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 133 แห่ง แบ่งเป็นคลินิกและโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการภาคกลาง มีจำนวน 26 แห่ง ภาคตะวันออก 21 แห่ง ภาคเหนือ 28 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 31 แห่ง ภาคใต้ 27 แห่ง
ทั้งนี้ กรณีผู้ประกันตนมาตรา 33 หากเกิดอาการเจ็บป่วยแล้วแพทย์ผู้ทำการตรวจวินิจฉัยโรคสงสัยว่า เจ็บป่วยด้วยโรคจากการทำงาน จะทำการส่งตัวไปยังคลินิกโรคจากการทำงาน แต่ในกรณีที่ไม่ใช่ผู้ประกันตนให้ยื่นใบ กท.16 ต่อสำนักงานประกันสังคมประจำพื้นที่ เพื่อขอหนังสือส่งตัวไปยังโรงพยาบาลที่ให้บริการคลินิกโรคจากการทำงาน โดยหากผลการตรวจลูกจ้างไม่เจ็บป่วยจากการทำงาน ลูกจ้างไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจวินิจฉัย เนื่องจากกองทุนเงินทดแทนให้การสนับสนุนค่าใช้จ่ายแก่โรงพยาบาลอยู่แล้ว (ข้อมูลจาก สำนักงานประกันสังคม)
สรุป...อย่านิ่งนอนใจหากเกิดโรคจากการทำงาน ใช้สิทธิประกันสังคมได้
โรคจากการทำงานเป็นปัญหาสุขภาพที่เกิดจากสภาพแวดล้อมหรือกิจกรรมในที่ทำงาน เช่น โรคปอด โรคกล้ามเนื้อและกระดูก หรืออาการเครียดเรื้อรัง ดังนั้น การป้องกันโรคจากการทำงานจึงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทำงาน การใช้เครื่องมือป้องกันที่เหมาะสม และการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เป็นวิธีการที่ช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคเหล่านี้ทั้งในระดับองค์กรและระดับบุคคล เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการส่งเสริมสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงานในระยะยาว
นอกจากนี้ในปัจจุบันลูกจ้างและผู้ใช้แรงงาน สามารถเข้ารับการรักษาฟรีกับคลินิกและโรงพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งสิทธินี้ช่วยให้ลูกจ้างและแรงงานเข้าถึงการรักษาได้สะดวก ลดภาระค่าใช้จ่าย และป้องกันโรคที่อาจรุนแรงขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ควรตรวจสอบสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการเพื่อประโยชน์สูงสุดในการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพของตนเอง
อ่านบทความน่ารู้เกี่ยวกับภาษีเพิ่มเติม คลิกที่นี่
Source : Inflow Accounting